ยิงไปได้!!!! สุดยอดนักเตะ ผู้ได้รับ รองเท้าทองคำ ของยุโรป ตั้งแต่ปี 1997-2015

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 20 เม.ย. 2559 12:47:58 น. เข้าชม 907 ครั้ง แจ้งลบ




รางวัล "รองเท้าทองคำ" หรือ "โกลเด้นบูท" นั้นเป็นอีกหนึ่งสุดยอดเกียรติยศที่เหล่าบรรดาศูนย์หน้าทั่วโลกต่างต้องการได้มาครอบครองอย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในชีวิตค้าแข้ง


โดยรางวัลนี้ จะถูกมอบให้กับนักฟุตบอลผู้ที่มีผลงานการทำประตูได้มากที่สุดของทุกลีกทั่วยุโรป โดยนับเฉพาะลูกที่เกิดขึ้นจากเกมลีกเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าคู่แข่งนั้นไม่ได้มีเพียงแค่นักเตะในประเทศตัวเอง


ส่วนในฤดูกาลนี้ใครจะได้ โกลเด้น บูท เราก็ยังไม่มีวัน แต่ก่อนหน้านั้นลองมาดูกันว่าตลอด 19 ปีที่ผ่านมา มีใครบ้างที่ยิงรัว ๆ ๆ ๆ ๆ จนได้สุดยอดรางวัลนี้ไปครอบครอง !!

1. โรนัลโด้ : ฤดูกาล 1996-97

FUSSBALL: SPANISCHER POKAL 96/97 REAL MADRID

ยิงได้ : 34 ประตู

ในลีก : ลาลีกา สเปน

สโมสร : บาร์เซโลนา


ในสมัยที่ "เจ้าโด้อ้วน" ย้ายเข้ามาอยู่กับทีมเจ้าบุญทุ่ม เมื่อฤดูกาล 1996-97 ด้วยค่าตัว 11.25 ล้านปอนด์ ก็โชว์ฟอร์มยกระดับฝีเท้าของตัวเองขึ้นเป็นระดับโลกได้ทันที ก่อนจะโยกไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัว 33.75 ล้านปอนด์ ในฤดูกาลถัดมา

2. นิกอส มาชลาส : ฤดูกาล 1997-98

พะ

ยิงได้ : 34 ประตู

ในลีก : เอเรดิวิซี ฮอลแลนด์

สโมสร : วิเทสส์ อาร์เนม


ดาวยิงจอมถล่มประตูของทีมชาติกรีซ คนนี้ ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากนัก แต่ตลอด 3 ฤดูกาลที่เขาโลดแล่นอยู่ในลีกแดนกังหัน ถือว่าเป็นตัวอันตรายที่คู่แข่งต้องเกรงกลัว และในปี 1997 นั้นเองเขาก็จัดการคว้า โกลเด้น บูท มาครองได้อย่างไม่มีใครคาดคิด

3. มาริโอ ยาร์เดล : ฤดูกาล 1998-99

ไหำก

ยิงได้ : 34 ประตู 

ในลีก : พรีไมรา ลีกา โปรตุเกส

สโมสร : เอฟซี ปอร์โต


สำหรับคอลูกหนังที่ติดตามเกมฟุตบอลอย่างเหนียวแน่นมาตั้งแต่กลางยุค 90 น่าจะรู้จักเขาคนนี้เป็นอย่างดี เพราะ ยาร์เดล เรียกได้ว่าเป็น "แรร์ไอเทม" ของวงการลูกหนัง เนื่องจากถึงแม้เขาจะยิงได้ทะลุหลัก 45-50 ประตูต่อซีซั่น (ในทุกรายการ) ก็ไม่เคยได้รับความสนใจจากสื่อและทีมชาติเสียที


4. เควิน ฟิลลิปส์ : ฤดูกาล 1999-2000

Kevin Phillipsกห

ยิงได้ : 30 ประตู

ในลีก : พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

สโมสร : ซันเดอร์แลนด์


เจ้าของรางวัลโกลเด้นบูทในฤดูกาลนั้นถือเป็นของขวัญสุดเซอร์ไพร์สต้อนรับศักราชใหม่เลยก็ว่าได้ เพราะก่อนหน้าที่ ฟิลลิปส์ จะยิงกระจุยกระจาย ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะทำได้ และนี่ก็ถือเป็นสุดยอดเกียรติยศที่เจ้าตัวได้ไปประดับโปรไฟล์ให้หรูขึ้นกว่าปกติอีกหลายเท่า


5. เฮนริค ลาร์สสัน : ฤดูกาล 2000-01

Henrik Larsson celebrates after opening the scorin

ยิงได้ : 35 ประตู

ในลีก : สก็อตติช พรีเมียร์ชิพ

สโมสร : กลาสโกว์ เซลติก


ในช่วงปลายยุค 90 นั้น ลาร์สสัน ถือเป็นศูนย์หน้าที่โด่งดังสุด ๆ แม้เล่นให้กับทีมเล็ก ๆ ในสก็อตแลนด์อย่าง กลาสโกว์ เซลติก เพราะฝีเท้าของเขานั้นเฉียบคมสุด ๆ บวกกับทรงผมเดรดล็อคสุดเท่


แต่ทันทีที่เขาจัดการโกนหัวตัวเองเป็นสกินเฮด ปีนั้น ลาร์สสัน ก็ได้รับของขวัญตอบแทนเป็นรางวัล รองเท้าทองคำ ทันที

6. มาริโอ ยาร์เดล : ฤดูกาล 2001-02

Mario Jardel

ยิงได้ : 42 ประตู

ในลีก : พรีไมรา ลีกา โปรตุเกส

สโมสร : สปอร์ติง ลิสบอน


ตามที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้ว่า ยาร์เดล นั้นเป็นสุดยอดดาวยิงที่มักถูกมองข้าม แต่เขาก็ยังยิงได้รัว ๆ จนคนอื่นต้องอาย และในปี 2001 นี้ เขาก็ได้รับรองเท้าทองคำเป็นครั้งที่ 2 โดยคราวนี้ได้โยกมาอยู่กับทีมคู่แข่งของ ปอร์โต อย่าง สปอร์ติง ลิสบอน นั่นเอง


7. รอย มาคาย : ฤดูกาล 2002-03

FUSSBALL: CL 02/03, FC BAYERN MUENCHEN - DEPORTIVO LA CORUNA

ยิงได้ : 29 ประตู

ในลีก : ลาลีกา สเปน

สโมสร : เดปอร์ติโว ลา คอรุนญา


ก่อนที่ มาคาย จะก้าวขึ้นมาคว้า โกลเดน บูท ในปี 2003 นั้น เขาได้บ่มเพาะออร่าของความสำเร็จมาก่อนหน้านั้นแล้ว โดยได้แชมป์ลีกมาในปี 2000 และ ได้แชมป์ โคปา เดล เรย์ ในปี 2002 และในปี 2003 ถึงทีมจะไม่ได้อะไร แต่เขาก็ยังได้รางวัลส่วนมาทั้ง ดาวซัลโว ของ ลาลีกา และ ยุโรป นั่นเอง


8. เธียร์รี อองรี : ฤดูกาล 2003-04

Arsenal's Thierry Henry kicks the ball a

ยิงได้ : 30 ประตู

ในลีก : พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

สโมสร : อาร์เซนอล


ในปีนั้นน่าจะเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของ เธียร์รี อองรี อย่างแท้จริง เพราะเขาระเบิดฟอร์มสุดยอดจนสามารถพาทีมอาร์เซนอล ก้าวขึ้นไปเถลิงบัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ แถมเจ้าตัวยังคว้าดาวซัลโวของลีกและยุโรปไปครองอย่างสมเกียรติ

9. เธียร์รี อองรี (ร่วม) : ฤดูกาล 2004-05

FIFA Centenial World Player Gala 2004

ยิงได้ : 25 ประตู

ในลีก : พรีเมียร์ลีก

สโมสร : อาร์เซนอล


และในปีถัดมา ฟอร์มของยอดดาวยิงเลือดน้ำหอมก็ไม่ได้ตกลงไปเลยแม้แต่น้อย เขายังคงจัดการเดินหน้าสอยตาข่ายคู่แข่งต่อเนื่อง และถึงแม้จะไม่ได้แชมป์ลีก แต่ก็ยังได้แชมป์ เอฟเอ คัพ มาทดแทน พร้อมรางวัลส่วนตัวของเขาเองเช่น รองเท้าทองคำ สมัยที่สองติดต่อกัน

10. ดิเอโก้ ฟอร์ลัน (ร่วม) : ฤดูกาล 2004-05

Villarreal's Uruguayan forward Diego For

ยิงได้ : 25 ประตู

ในลีก : ลาลีกา สเปน

สโมสร : บียาร์เรอัล


สำหรับอดีตกองหน้าสายฮาของ แมนฯ ยูไนเต็ดคนนี้ นับตั้งแต่เขาตัดสินใจโยกไปค้าแข้งที่ สเปน อยู่ก็กลายสภาพตัวเองเป็นสิงโตผู้มีความน่าเกรงขามระดับมหาศาลยามอยู่บนฟลอร์หญ้าเพื่อล่าตาข่ายคู่แข่ง


และในปี 2005 เขาก็ได้รางวัลรองเท้าทองคำไปครองร่วมกันกับ เธียร์รี อองรี นั่นเอง


11. ลูก้า โทนี : ฤดูกาล 2005-06

AS Roma v Fiorentina

ยิงได้ : 31 ประตู

ในลีก : กัลโช เซเรียอา

สโมสร : ฟิออเรนตินา


ปีนี้ ลูก้า โทนี ที่อายุอานามก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วสามารถสร้างชื่อกลับมาแจ้งเกิดได้อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยฟอร์มการถล่มประตูที่มากมายเหลือเชื่อให้ ฟิออเรนตินา แล้วก็เหมือนติดลมบน เพราะหลังจากนั้นเขาก็ยิงได้มากมายทุกซีซั่นไม่ว่าจะย้ายไปอยู่กับทีมไหนก็ตาม

12. ฟรานเชสโก้ ต็อตติ : ฤดูกาล 2006-07

Roma v Palermo

ยิงได้ : 26 ประตู

ในลีก : กัลโช เซเรียอา

สโมสร : โรมา


ปีถัดมา รองเท้าทองคำก็ยังคงตกเป็นของนักเตะจาก เซเรีย อา อยู่ และคราวนี้เป็นคิวของ "เจ้าชายหมาป่า" ฟรานเชสโก ต็อตติ ที่ถึงแม้จะเล่นตำแหน่งหน้าต่ำ แต่เขาก็จัดไปได้ในลีกถึง 26 ประตู

13. คริสเตียโน โรนัลโด : ฤดูกาล 2007-08

Manchester United v Liga De Quito - FIFA Club World Cup 2008 Final

ยิงได้ : 31 ประตู

ในลีก : พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

สโมสร : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


ในช่วงนั้น โรนัลโด้ ระเบิดฝีเท้าก้าวขึ้นไปเป็นผู้เล่นระดับโลกและพาแมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีก ได้ถึง 3 สมัยติดต่อกัน แต่ในปี 2008 นั้นพิเศษหน่อย เพราะได้เป็นเจ้าของรางวัล รองเท้าทองคำ ครั้งแรกในชีวิตบนเส้นทางค้าแข้งด้วย

14. ดิเอโก้ ฟอร์ลัน : ฤดูกาล 2008-09

Atletico de Madrid???s Diego Martin Forlan

ยิงได้ : 32 ประตู

ในลีก : ลาลีกา สเปน

สโมสร : แอตเลติโก มาดริด




และปี 2009 นั้น เขาก็จัดการกระหน่ำ ไปได้มากถึง 32 ประตูในลีกจนได้เป็นเจ้าของรางวัลรองเท้าทองคำไปอย่างยิ่งใหญ่

15. ลีโอเนล เมสซี : ฤดูกาล 2009-10

Barcelona's Argentinian forward Lionel M

ยิงได้ : 34 ประตู

ในลีก : ลาลีกา สเปน

สโมสร : บาร์เซโลนา


หลังจากที่คู่แข่งตลอดกาลอย่าง โรนัลโด้ ประกาศศักดาไปแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน (สมัยอยู่แมนฯยู) คราวนี้มาถึงคิวแจ้งเกิดบนเวที โกลเด้น บูท ของ ลีโอเนล เมสซี กันบ้าง 


โดยเขาจัดไป 34 ลูกพาทีมต่างดาวคว้าแชมป์ลีก อีกทั้งยังมีพ่วง บัลลงดอร์, นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของทั้ง ยูฟา,ฟีฟา, ลาลีกา, อาร์เจนตินา อละอื่น ๆ อีกมากมายด้วย 

16. คริสเตียโน โรนัลโด้ : ฤดูกาล 2010-11

Real Madrid's Portuguese forward Cristia

ยิงได้ : 40 ประตู

ในลีก : ลาลีกา สเปน

สโมสร : เรอัล มาดริด


นับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป จะเรียกว่าเป็นการต่อสู้กันระหว่าง อมนุษย์ กับ มนุษย์ต่างดาว ก็คงไม่ผิดนัก เพราะเมื่อ เมสซี ทำได้ไปเมื่อปีก่อน โรนัลโด้ ก็ไม่ยอมแพ้ จัดไปมากถึง 40 ประตูในลีก แต่หากนับรวมทุกรายการคือ 53 ลูกเลยทีเดียว

17. ลีโอเนล เมสซี : ฤดูกาล 2011-12

FBL-ESP-LIGA-BARCELONA-CELTA

ยิงได้ : 50 ประตู

ในลีก : ลาลีกา สเปน

สโมสร : บาร์เซโลนา


อย่างไรก็ตาม ปีถัดมา เมสซี นั้นก็ไม่ได้ปล่อยให้ โรนัลโด ยิ่งใหญ่แต่เพียงผู้เดียว เพราะเขาได้จัดการทวงคืนรางวัลรองเท้าทองคำมาได้ พร้อมทั้งจัดไปมากถึง 50 ประตูในลีก และ 73 ประตูจากทุกรายการ ซึ่งเป็นตัวเลขที่เวอร์วังอลังการสุด ๆ ไปเลย

18. ลีโอเนล เมสซี : ฤดูกาล 2012-13

FBL-ESP-GOLDEN BOOT-MESSI

ยิงได้ : 46 ประตู

ในลีก : ลาลีกา สเปน

สโมสร : บาร์เซโลนา


หลังจากที่ อองรี เคยคว้ารางวัลนี้ 2 สมัยติดต่อกันมาแล้วเมื่อเกือบสิบปีก่อน ปี 2013 เจ้าหนูต่างดาวก็จัดการทำให้มันเกิดขึ้นอีกครั้ง พร้อมสถิติการยิงไป 46 ลูกในลีก 60 ลูกจากทุกรายการ พร้อมพาทีมคว้าแชมป์ลีก, ได้บัลลงดอร์, นักเตะยอดเยี่ยม ลาลีกา และอีกเพียบจนนับไม่หมด

19. คริสเตียโน โรนัลโด้ (ร่วม) : ฤดูกาล 2013-14

Cristiano Ronaldo Receives the Golden Boot Award

ยิงได้ : 31 ประตู

ในลีก : ลาลีกา สเปน

สโมสร : เรอัล มาดริด


เมื่อศัตรูที่รักของ โรนัลโด้ ครองความยิ่งใหญ่มาต่อเนื่อง 2 ปี เขาที่เป็นคนไม่ชอบยอมแพ้ จึงได้เร่งปลดปล่อยพลังที่แท้จริงออกมาจนได้กลับมาเป็นเจ้าของ รองเท้าทองคำ ปี 2014 นี้ได้สำเร็จ แถมยังพาทีมคว้าถ้วย ยูฟา แชมเปียนส์ลีก มาครอง พร้อมพ่วงบัลลงดอร์ อีกด้วย


20. หลุยส์ ซัวเรซ (ร่วม) : ฤดูกาล 2013-14

FBL-ESP-GOLDEN BOOT-SUAREZ


21. คริสเตียโน โรนัลโด้ : ฤดูกาล 2014-15

FBL-EU-GOLDEN-SHOE-RONALDO

ยิงได้ : 48 ประตู

ในลีก : ลาลีกา สเปน

สโมสร : เรอัล มาดริด 


และในปีล่าสุด คริสเตียโน โรนัลโด้ ก็สร้างปรากฏการณ์ต่อเนื่อง ด้วยผลงานการยิงไปได้ 48 ประตูในลีก 61 ประตูจากทุกรายการ ซึ่งถึงแม้ทีมจะไม่ประสบความสำเร็จอะไร แต่ส่วนตัวเขาแล้วต้องบอกว่ายิ่งใหญ่สุด ๆ เพราะมีทั้ง บัลลงดอร์ กับ โกลเดน บูท สองสมัยซ้อน พ่วงรางวัล นักเตะยอดเยี่ยมยุโรป, ยอดเยี่ยมโลกอีก 2 สถาบัน ฯลฯ