ชิรูด์เปิดโอซิลปิด! ปืนใหญ่บดเสือใต้มันหยด 2-0 ซิวสามแต้มแรก

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 21 ต.ค. 2558 05:57:21 น. เข้าชม 1090 ครั้ง แจ้งลบ


อาร์เซนอล คว้าสามคะแนนแรกต่อความหวังในการเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ หลังเปิดบ้านบดเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ไปอย่างสุดมัน จากการทำคนละประตูของ ชิรูด์และโอซิล

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ นัดที่สาม ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดียม ระหว่าง อาร์เซนอล ก่อนเกมรั้งอันดับสุดท้ายของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ บาเยิร์น มิวนิค จ่าฝูง

อาร์แซน เวงเกอร์ เทรนเนอร์เจ้าถิ่น ยังคงยึดผู้เล่นชุดเดิมจากเกมลีกนัดล่าสุด ที่บุกถล่ม วัตฟอร์ด ขาดลอย 3-0 นำโดย ปีเตอร์ เช็ก (ผู้รักษาประตู), เฮคเตอร์ เบเยลิน, โลร็องต์ กอสเซียลนี, ซานติ กาซอร์ลา, เมซุต โอซิล, อเล็กซิส ซานเซซ และหน้าเป้าเป็น ธีโอ วัลคอตต์ เช่นเคย

ขณะที่ผู้มาเยือนของกุนซือ เป๊บ กวาร์ดิโอลา ตัดสินใจส่ง ดั๊กลาส คอสต้า กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังได้พักในเกมลีกสุดสัปดาห์ นอกนั้นยังเป็นผู้เล่นขาประจำ นำโดย มานูเอล นอยเออร์ (ผู้รักษาประตู), ฟิลิปป์ ลาห์ม, ชาบี อลอนโซ, โธมัส มุลเลอร์ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

เริ่มเกมมาได้เพียง 6 นาที เจ้าถิ่นฉวยโอกาสเปิดฉากทักทายก่อน จากจังหวะที่ อเล็กซิส ซานเซซ ลากตัดจากฝั่งซ้ายเข้ากลาง ก่อนไหลให้ เมซุต โอซิล เกี่ยวกระดกแต่งด้วยซ้ายเข้าขวา แล้วพยายามซัดไปเสาไกล ทว่า มานูเอล นอยเออร์ ยังปฏิกิริยาไวพุ่งปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด

ถัดมาในนาทีที่ 11 อาคันตุกะจากเมืองเบียร์เริ่มมีโอกาสทักทายบ้าง จากจังหวะที่ ติอาโก้ อัลคันทารา ไหลออกไปทางฝั่งขวาให้ โธมัส มุลเลอร์ ทำชิ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษ และเป็น อัลคันทารา เติมขึ้นมาเอี้ยวตัวปั่นด้วยขวาเน้นๆ แต่ว่า ปีเตอร์ เช็ก โชว์ซูเปอร์เซฟ ด้วยการพุ่งปัดออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม

นาทีที่ 18 บาเยิร์น ได้โอกาสลุ้นประตูอีกครั้ง จากจังหวะที่ ดั๊กลาส คอสต้า ใช้ความสามารถเฉพาะตัวสับขายึกยักกระชากผ่าน เฮคเตอร์ เบเยลิน ไปสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนเลือกยิงยัดเสาแรกเต็มข้อ แต่ว่า ปีเตอร์ เช็ก ยังยืนปิดมุมดีทุบบอลทิ้งออกหลังไป  

รูปเกมทั้งสองทีมเปิดหน้าแลกกันอย่างสนุก และในนาทีที่ 27 ยังเป็นโอกาสลุ้นประตูของ บาเยิร์น จากจังหวะที่ ชาบี อลอนโซ ไหลขึ้นหน้าให้ อาร์ตูโร วิดัล งัดบอลแต่งด้วยซ้าย แล้วฮาร์ฟวอลเลย์ด้วยขวาเต็มข้อจากระยะประมาณ 25 หลา ทิศทางจะพุ่งเสียบเสาไกลอยู่แล้ว แต่ว่า ปีเตอร์ เช็ก ยังคงยอดเยี่ยม พุ่งปัดสุดปลายมือออกไปได้เช่นเคย

จากนั้นนาทีที่ 32 เจ้าบ้านพลาดโอกาสทอง จากจังหวะที่ อเล็กซิส ซานเซซ แทงขึ้นหน้าไปทางฝั่งซ้าย นาโช มอนเรอัล เปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษแบบไม่ต้องจับให้ ธีโอ วัลคอตต์ ตั้งหัวโหม่งเน้นๆเต้มศรีษะ แต่ว่า มานูเอล นอยเออร์ กลับพุ่งปัดมือเดี่ยวจากเส้นประตูออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ

ท้ายครึ่งแรก เจ้าบ้านโหมบุกกดดันอย่างหนัก แต่ไม่สามารถเจาะผ่านแนวรับอันแข็งแกร่งของ บาเยิร์น มิวนิค เข้าไปได้ แถมเกือบเสียประตู จากจังหวะที่ อเล็กซิส ซานเซซ จ่ายคืนหลังพลาดไปเข้าทาง ดั๊กลาส คอสต้า ลากจี้เข้าหาเขตโทษ ก่อนกดด้วยซ้ายเต็มข้อบริเวณหัวกระโหลก ทำให้ ปีเตอร์ เช็ก ต้องออกแรงเซฟลอยตัวปัดสุดปลายมือออกไป ก่อนจบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันแบบไร้ประตู 0-0 

กลับมาเล่นในครึ่งหลังได้ไม่นาน เพียงนาทีที่ 50 กลายเป็นทีมเยือนที่เริ่มหาโอกาสทักทายก่อน จากจังหวะที่ ดั๊กลาส คอสต้า โชว์สเต็ปพริ้วโยกหลอก ฟรองซิส โกเกอแล็ง จนเสียหลัก ก่อนตัดสินใจตะบันด้วยซ็ายเต็มข้อจากระยะประมาณ 25 หลา ส่งบอลพุ่งเหินข้ามคานออกหลังไปนิดเดียว

นาทีที่ 54 บาเยิร์น มิวนิค มีโอกาสอีกครั้ง จากลูกที่ ดั๊กลาส คอสต้า แทงทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษแฉลบขาแนวรับเจ้าถิ่นเข้าทาง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ไม่พูดพร่ำทำเพลงหวดด้วยขวาเต็มข้อ ล่อเต็มแข้ง บอลพุ่งแรงจะเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังลอยตัวปัดปลายมือออกหลังไปอีกเช่นเคย

ถัดมานาทีเดียว อาร์เซนอล ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวไปโดยปริยาย เนื่องจาก อารอน แรมซีย์ กองกลางคนสำคัญดันมีอาการบาดเจ็บ ขณะวิ่งไล่แย่งบอลแล้วกล้ามเนื้อกระตุกเอง จนไม่สามารถลงเล่นต่อได้ ทำให้ อาร์แซน เวงเกอร์ ตัดสินใจส่ง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ลงมาทำหน้าที่แทน

จากนั้นรูปเกมยังคงเปิดหน้าแลกกันอย่างสุดมันเหมือนในครึ่งแรก และในนาทีที่ 74 เป็นทีมเยือนที่น่าได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจริงๆ จากจังหวะเสียบอลกลางสนามของ อาร์เซนอล ไปเข้าทาง โธมัส มุลเลอร์ ไหลขึ้นหน้าให้ ดั๊กลาส คอสต้า ไหลถวายพานออกไปทางขวาให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แตะเข้าไปในเขตโทษ แล้วกดด้วยขวาเต็มข้อ และก็เป็นอีกครั้งที่ ปีเตอร์ เช็ก นายด่านจอมเก๋าวัย 34 ปีโชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งออกไปได้

Goal!! นาทีที่ 76 สนามเอมิเรตส์ สเตเดียแทบแตก เมื่อเจ้าถิ่นมาได้ประตูออกนำไปก่อน จากจังหวะที่ ซานติ กาซอร์ลา เปิดฟรีคิกจากกลางสนามฝั่งขวาเข้าไปลุ้นในกรอบเขตโทษ และเป็น มานูเอล นอยเออร์ ออกมาตัดบอลวืด ทำให้บอลลอยไปตกใส่หน้าของ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาอยู่ในสนามได้ 2 นาทีเข้าประตูไป ช่วยให้อาร์เซนอลขึ้นนำ 1-0

เท่านั้นไม่พอ ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย 'ไอ้ปืนใหญ่' มาได้ประตูตอกฝาโลง จากจังหวะที่ เฮคเตอร์ เบเยลิน ใช้ความขยันไปแย่งตัดบอลได้บริเวณกลางสนาม ก่อนติดเครื่องกระชากหนีผู้เล่น บาเยิร์น เข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา แล้วตบเข้ากลางให้ เมซุต โอซิล วิ่งมาแปด้วยซ้ายเน้นๆ แม้ว่า มานูเอล นอยเออร์ จะล้มตัวควักออกมาได้ แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงให้สัญญานว่าลูกข้ามเส้นประตูไปแล้ว

ทำให้จบเกม อาร์เซนอล เปิดบ้านบดเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ไปแบบสุดมัน 2-0 คว้าสามแต้มแรกได้สำเร็จ พร้อมขยับขึ้นไปมารั้งอันดับ 3 ของตาราง โดยมี 3 คะแนนเท่ากับ ดินาโม ซาเกร็ป อันดับสุดท้าย แต่ผลต่างประตูได้เสียมากกว่า 5 ประตูนั่นเอง ส่วนฝั่ง 'เสือใต้' แม้จะแพ้แต่ยังนำเป็นจ่าฝูงต่อไป หลังมี 6 คะแนนเท่ากับ โอลิมเปียกอส 

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป อาร์เซนอล ยังได้เล่นในบ้านรอพบกับ เอฟเวอร์ตัน ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่จะถึงนี้ เวลา 23.30 น. ขณะที่ บาเยิร์น เตรียมเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ โคโลญจน์ ในเกมบุนเดสลีกา เยอรมัน วันเสาร์นี้เช่นกัน เวลา 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย