ต้องลุ้นต่อ! ราชันชวดชัยบุกเจ๊าลีเกียสุดมัน 3-3

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 3 พ.ย. 2559 11:11:13 น. เข้าชม 748 ครั้ง แจ้งลบ

ต้องลุ้นต่อ! ราชันชวดชัยบุกเจ๊าลีเกียสุดมัน 3-3

พลพรรคโลส บลังโกสฟอร์มสะดุด หลังทำได้แค่บุกไปเสมอลีเกีย วอร์ซอว์ 3-3 ยังไม่การันตีเข้ารอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย

เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกนัดที่ 4 เกมนี้ลงเล่นในสนามปิดที่ไม่มีผู้ชมเนื่องจากแฟนบอลเจ้าบ้านก่อเหตุวุ่นวายในเกมนัดแรกที่เปิดบ้านพบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ผู้รักษาประตูใช้ อาร์คาดิอุสซ์ มาลาร์ซ แนวรับได้ มิชาล พาซดาน กองหลังตัวหลักกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง เช่นเดียวกับตัวหลักอย่าง ธีโบต์ มูแลง, กีเยร์เม, มิโรสลาฟ ราโดวิช, วาดิส โอจิจา-โอโฟเอ้ และเนมานยา นิโกลิช ที่พร้อมลงสนาม

ทางฝั่งทีมเยือนมาในระบบ 4-4-2 มีปัญหาในแนวรับพอสมควร เคยเลอร์ นาบาส เป็นผู้รักษาประตู คู่กองหลัง ราฟาเอล วาราน จับคู่กับ นาโช เฟร์นานเดช แบ็คซ้ายได้ ฟาบิโอ โคเอนเทรา กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้งตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2015 หลังจากฤดูกาลก่อนถูกยืมตัวไปเล่นกับ โมนาโก แดนกลาง โทนี โครส จับคู่กับ มัตเตโอ โควาซิช แนวรุกริมเส้น แกเร็ธ เบล และ คริสเตียโน โรนัลโด้ คู่กองหน้า คาริม เบนเซมา และ อัลบาโร โมราต้า

ทีมเยือนได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่นาทีแรก จากจังหวะที่ ฟาบิโอ โคเอนเทรา โยนบอลจากริมเส้นเข้ามาให้ คริสเตียโน โรนัลโด้ โหม่งเช็ดไปให้ แกเร็ธ เบล ที่ยืนอยู่หน้ากรอบเขตโทษวอลเลย์ด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมมุมบนอย่างสวยงาม เรอัล มาดริดออกนำ 1-0 และทำสถิติเป็นลูกยิงที่เร็วที่สุดตลอดกาลในแชมเปี้ยนส์ ลีกของเรอัล มาดริดที่ 57 วินาทีอีกด้วย

โอกาสอีกครั้งของทีมเยือนนาทีที่ 24 จากลูกเตะมุมของ โทนี โครส เข้ามา แกเร็ธ เบล ได้เทคตัวขึ้นโหม่งบอลไปติดเซฟ อาร์คาดิอุสซ์ มาลาร์ซ และถูกกองหลัง ลีเกีย วอร์ซอว์ สกัดออกมาได้

เรอัล มาดริดได้ประตูที่สองในนาทีที่ 35 จากการประสานงานของ มัตเตโอ โควาซิช พลิกบอลหลบผู้เล่น ลีเกีย วอร์ซอว์ ก่อนแทงทะลุช่องให้ แกเร็ธ เบล ที่วิ่งสอดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนปาดเข้ากลางให้ คาริม เบนเซมา ได้ยิงเสียบเสาแรกเข้าไป สกอร์ขยับเป็น 2-0

เจ้าบ้านได้ประตูไล่มาในนาทีที่ 40 จากจังหวะที่ กีเยร์เม เลี้ยงจี้กองหลังก่อนไหลให้ วาดิส โอชิชา-โอโฟเอ้ เลี้ยงแหวกแนวรับ เรอัล มาดริด แล้วได้สับไฟยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมบนเสาสองอย่างสวยงาม ลีเกีย วอร์ซอว์ ไล่มา 1-2


เกมในครึ่งหลังโอกาสอีกครั้งของทีมเยือนนาที 49 จากจังหวะทำเกมขึ้นมาก่อนที่ คาริม เบนเซมา จะกระดกบอลให้ แกเร็ธ เบล หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษใช้อกพักบอลก่อนซัดด้วยซ้าย แต่ก็ยังคงไม่ผ่านมือของ อาร์คาดิอุสซ์ มาลาร์ซ และ คริสเตียโน โรนัลโด้ ได้ซ้ำแต่ลูกไปเข้าข้างตาข่าย

โอกาสลุ้นของเจ้าบ้านในนาทีที 52 จากลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษของ กีเยร์เม บอลพุ่งข้ามคานออกไปไม่ไกล

เจ้าบ้านได้ประตูตีเสมอในนาทีที่ 58 จากจังหวะขึ้นเกมมาทางฝั่งซ้ายของเจ้าบ้านเป็น มิโรสลาฟ ราโดวิช ที่รับบอลก่อนพลิกเข้าหากรอบเขตโทษ เรอัล มาดริด แล้วได้ยิงด้วยหัวเกือกบอลพุ่งเรียดผ่านมือ เคย์เลอร์ นาบาส เสียบเสาสองอย่างสวยงาม สกอร์กลับมาเท่ากัน 2-2

เจ้าบ้านมาได้ประตูแซงนำในนาทีที่ 83 จากจังหวะที่ วาดิส โอชิชา ได้บอลหลุดมาทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางมาให้ อเล็กซานดาร์ พริโยวิช ที่แปะบอลมาให้ ธีโบต์ มูแลง ยิงผ่านมือ เคย์เลอร์ นาบาส เข้าประตูไป ลีเกีย วอร์ซอว์ แซงนำ 3-2

ทีมเยือนได้ประตูตีเสมอในนาทีที่ 86 จากจังหวะที่ โทนี โครส จ่ายบอลทะลุช่องเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ ดาเนียล การ์บาฆาล ก่อนจะสอกต้นมาให้ มัตเตโอ โควาซิช ได้สับไกยิงผ่านมือ อาร์คาดิอุสซ์ มาลาร์ซ เข้าประตูไป สกอร์กลับมาเท่ากัน 3-3

จบเกมเรอัล มาดริดบุกมาเสมอลีเกีย วอร์ซอว์ 3-3 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม ทางฝั่งเจ้าบ้านมี 1 คะแนนรั้งท้ายของกลุ่ม ส่วนทางฝั่งทีมเยือนเก็บเพิ่มเป็น 8 คะแนนรั้งอันดับ 2 ยังไม่การันตีเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย


ที่มา: http://www.goal.com/th