แดงฝั่งละใบ! เรือบุกเจ๊าสิงห์หนุ่ม 1-1 ซิวรองแชมป์กลุ่มซี

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 24 พ.ย. 2559 09:38:44 น. เข้าชม 824 ครั้ง แจ้งลบ

แดงฝั่งละใบ! เรือบุกเจ๊าสิงห์หนุ่ม 1-1 ซิวรองแชมป์กลุ่มซี

แชมป์ลีกคัพอังกฤษเมื่อซีซั่นก่อน บุกยันเสมอทีมจากบุนเดสลีกา การันตีผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะอันดับสองของกลุ่มซีแน่นอนแล้ว

ฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี เกมนัดที่ 5 ที่สตาดิโอน อิม โบรุสเซีย พาร์ค เจ้าถิ่น โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ซิตี้

ทีมสิงห์หนุ่มของกุนซืออันเดร ชูแบร์ต สถานการณ์ล่าสุดไม่ชนะใครมา 4 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ สภาพนักเตะมีใช้งานจำกัด ขาดกำลังสำคัญทั้งคริสตอฟ คราเมอร์และยูเลียน คอร์บ ที่ติดโทษแบน ส่วนพาทริค เฮอร์มันน์, อัลบาโร โดมิงเกวซ, โยซิบ เดอร์มิช และมามาดู ดูกูเร เจ็บทั้งสิ้น โดยเกมนี้ส่งมะห์มูด ดะฮูด, อิบราฮิมา ตราโอเร, ลาร์ส สตินเดิ้ล และฟาเบียน จอห์นสัน ประสานเกมตรงกลาง โดยมีราฟฟาเอล เป็นทีเด็ดในแนวรุก

ขณะที่ผู้มาเยือนอย่างเรือใบสีฟ้า หากคว้า 3 คะแนนได้ในเกมนี้จะการันตีการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายทันที โดยเป็ป กวาร์ดิโอลา จัด 11 ผู้เล่นกำลังหลักลงสนามพร้อมหน้า ผู้รักษาประตูเป็นเคลาดิโอ บราโว พ้นโทษแบนกลับมาลงเฝ้าเสาให้ทีมอีกครั้ง แนวรับ 3 คน มีจอห์น สโตนส์, นิโคลัส โอตาเมนดี้ และอเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ เกมตรงกลางให้อิลกาย กุนโดกันลงเชื่อมเกมกับแฟร์นันดินโญ โดยมีราฮีม สเตอริง, ดาบิด ซิลบา, เคลวิน เดอ บรอยน์ และเฆซุส นาบาส ร่วมประสานเกมรุกด้านหลังเซร์คิโอ อเกวโร


เกมช่วงต้นครึ่งแรกทั้งสองทีมมีโอกาสบุกสููสีกันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร กระทั่งนาทีที่ 24 เป็นเจ้าถิ่นที่ได้เปรียบได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 เมื่อลาร์ส สตินเดิ้ล อาศัยความแข็งแกร่งแย่งบอลกับจอห์น สโตนส์ ก่อนตัดสินใจลากบอลทางฝั่งขวาเข้าเขตโทษและจ่ายตัดกลับมาให้ราฟฟาเอล ที่วิ่งมารอเติมซัดเหน่งๆเต็มเท้าขวาหนีมือเคลาดิโอ บราโวตุงตาข่าย 

หลังเสียประตูเป็นเรือใบสีฟ้าที่พยายามเดินทางทวงประตูตีเสมอ ก่อนจะประสบความสำเร็จช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+1 เมื่ออิลคาย กุนโดกันจ่ายตัดแนวรับบริเวณแถวเขตโทษมาให้ราฮีม สเตอริง จากนั้นปีกชาวอังกฤษแทงทะลุแนวรับมาให้เคลวิน เดอ บรอยน์กึ่งยิงกึ่งผ่านมาเข้าเท้าดาบิด ซิลบาสะกิดบอลผ่านมือยานน์ ซอมเมอร์ซุกก้นตาข่าย แมนฯซิตี้ไล่มา 1-1 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

เปิดครึ่งหลังมาเป็นทีมเยือนที่นำบอลไปซุกก้นตาข่ายอีกครั้ง จากจังหวะที่เคลวิน เดอ บรอยด์ อาศัยความสามารถเฉพาะตัวพาบอลแหวกเกมรับเจ้าถิ่น ก่อนไหลบอลมาให้ราฮีม สเตอริงในเขตโทษ ก่อนได้โอกาสสับไกลหน้าปากประตูไปแล้ว ทว่าผู้ตัดสินดันให้เป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน ในนาทีที่ 49

จากนั้นนาทีที่ 51 และ 63 ทั้งสองทีมต้องเสียผู้เล่นฝั่งละราย เมื่อลาร์ส สตินเติ้ลตัดฟาวล์ใส่นิโคลัส โอตาเมนดี้จนทีมเยือนได้ลุ้นจากลูกจากตั้งเตะ ขณะที่แมนฯซิตี้เป็นแฟร์นันดินโญ ที่ไปขวางการเล่นราฟฟาเอล ตามลำดับ

นาทีที่ 67 ทีมเยือนมีโอกาสน่าลุ้นอีกครั้ง เมื่อเคลวิน เดอร์ บรอยด์ได้โอกาสสับไกลหน้าเขตโทษ ทว่ายานน์ ซอมเมอร์ยังพุ่งปัดออกหลังหวุดหวิด

เวลาที่เหลือของครึ่งหลังเป็นแมนฯซิตี้ที่ครองบอลบุกได้มากกว่า แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมเอง โดยทีมสิงห์หนุ่มกลายเป็นฝั่งตั้งรับแล้วรอสวนมากกว่าครึ่งแรก จนแล้วจนรอดทั้งสองทีมไม่สามารถเบิกสอร์ที่สองของตนเองได้ หมดเวลาการแข่งขัน โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ส่งผลให้เรือใบสีฟ้าผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะทีมอันดับ 2 ของกลุ่มแน่นอนแล้ว ขณะที่เจ้าถิ่นคว้าอันดับสาม พร้อมพื้นที่ลุยฟุตบอลยูโรป้า ลีกต่อไป


ที่มา: http://www.goal.com/th