โพสต์โดย : Admin เมื่อ 27 มิ.ย. 2561 08:10:38 น. เข้าชม 853 ครั้ง แจ้งลบ

“กระทิงดุ” สเปน แบ่งแต้มจากการไล่ตีเสมอ โมร็อกโก 2-2 ในช่วงท้ายเกม จากประตูของยาโก้ อาสปาส ส่งผลให้คว้าตำแหน่งแชมป์ของกลุ่ม บี ได้ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในการแข่งขันที่คาลินินกราด เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

ประตูแรกของเกมนี้เกิดขึ้นตั้งแต่นาทีที่ 14 คาลิด บูทาอิบ ตัดบอลได้จากความผิดพลาดของผู้เล่นสเปนที่กลางสนาม ก่อนพาบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงผ่านดาบิด เด เคอา เข้าไปง่าย ๆ โมร็อกโก นำแล้ว 1-0

ผ่านไปเพียง 5 นาที สเปน ตีเสมอได้อย่างทันควันเป็น 1-1 จากการทำชิ่งกันของผู้เล่นสเปน บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษถึงเท้าของอันเดรส อินิเอสต้า ตบกลับเข้ามาตรงกลาง อิสโก้ จับบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนซัดระยะเผาขนเสยเพดานเข้าไปตุงตาข่าย

โมร็อกโก ได้โอกาสหลุดเดี่ยวอีกครั้งในนาที 25 คาลิด บูทาอิบ คนเดิมได้บอลหลุดเข้าไปยิงคนเดียว แต่คราวนี้บอลไม่ผ่านมือดาบิด เด เคอา นายทวารสเปนป้องกันเอาไว้ได้

จบครึ่งแรก สเปน ยังคงเสมอ โมร็อกโก อยู่ 1-1

เข้าสู่ครึ่งหลังเริ่มมาได้ไม่นาน นาที 55 โมร็อกโก หวิดได้ประตูขึ้นนำ นอร์ดิน อัมราบัต ได้ซัดจากนอกเขตโทษ บอลติดไซด์ก้อยแล้วพุ่งไปชนคานเข้าอย่างจัง ชนิดที่แฟนบอลใน www.sbobett.com ได้หวาดเสียวไปตาม ๆ กัน ก่อนที่เซร์คิโอ รามอส จะมาพาบอลออกไปให้พ้นเขตอันตราย  

สเปน เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าแต่ก็หาโอกาสจบสกอร์ในจังหวะอันตรายได้น้อยมากในเกมนี้ และนาที 81 โมร็อกโก ขึ้นนำ 2-1 เฟย์คาล ฟาเจอร์ เปิดเตะมุมมาเข้าหัวยูสเซฟ เอน-เนซีรี่ โหม่งเข้าไปอย่างสวยงาม

อย่างไรก็ตามในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีแรก สเปน ตีเสมอ โมร็อกโก 2-2 ดานี่ การ์บาฆาล เปิดเรียดยัดเข้าไปหน้าปากประตู ยาโก้ อาสปาส กองหน้าตัวสำรองที่เพิ่งลงมาในครึ่งหลัง ไขว้บอลเข้าประตูไปอย่างสุดดราม่า โดยผู้ตัดสินต้องวิ่งไปเช็คดู VAR ว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าหรือไม่ ก่อนที่จะตัดสินให้ประตูนี้กับสเปน

จบเกม สเปน เสมอ โมร็อกโก 2-2 ขุนพลทัพกระทิงดุ เก็บเพิ่มเป็น 5 คะแนนจาก 3 นัด คว้าแชมป์กลุ่มบี หลังอีกคู่นึงที่ลงสนามพร้อมกัน โปรตุเกส เสมอ อิหร่าน 1-1 โปรตุเกส เป็นรองแชมป์ในกลุ่มนี้ โดยมี 5 คะแนนจาก 3 นัดเท่ากับสเปน แต่ประตูได้เสียน้อยกว่า ส่วนโมร็อกโก มี 1 คะแนนจาก 3 นัด ตกรอบแบ่งกลุ่มเป็นที่เรียบร้อย

สเปน จะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ไปพบกับเจ้าภาพ รัสเซีย ที่เข้ารอบมาด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มเอ ที่กรุงมอสโก ส่วน โปรตุเกส จะผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มไปเจอกับ อุรุกวัย แชมป์ของกลุ่มเอ

สำหรับแมน ออฟ เดอะ แมตช์ในเกมนี้ ตกเป็นของนอร์ดิน อัมราบัต มิดฟิลด์โมร็อกโกจากสโมสรวัตฟอร์ดในพรีเมียร์ลีก ที่ทำหน้าที่คอยปั่นป่วนแผงมิดฟิลด์สเปนตลอด 90 นาที และมีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ด้วยลูกยิงไกลสุดสวยถ้าลูกบอลพุ่งต่ำกว่านี้สัก 2 นิ้ว

สถิติเพิ่มเติมจากออปตา เผยว่า สเปน ไม่แพ้ใครมา 23 นัดติดต่อกัน (ชนะ 15 เสมอ 8) นับตั้งแต่แพ้ อิตาลี ในยูโร 2016 แต่ผลเสมอในนัดนี้ ทำให้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1982 ที่สเปน ไม่ชนะในการแข่งขันนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม