สโลวักบดโปแลนด์10ตัว2-1ฟาด3แต้ม

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 15 มิ.ย. 2564 03:58:18 น. เข้าชม 481 ครั้ง แจ้งลบ

สโลวาเกีย บดเอาชนะ โปแลนด์ ที่เหลือ 10 คนไปได้ 2-1 ในศึก ยูโร 2020 กลุ่ม อี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ฟุตบอล ยูโร 2020

กลุ่ม อี

โปแลนด์ 1 - สโลวาเกีย 2

สนาม : เครสตอฟสกี้ สเตเดียม, เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก 


เริ่มเกมมาได้ 14 นาที สโลวัก ได้เสียวก่อนเมื่อทาง ออนเดรย์ ดูด้า ลากตัดจากทางซ้ายแล้วหวดด้วยขวาบอลพุ่งหลุดเสาแรกนิดเดียว

อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 18 สโลวาเกีย ออกนำ 1-0 จากความยอดเยี่ยมของ โรเบิร์ต มัค ที่แตะลอดขา บาร์ตอส เบเรสซินสกี้ เข้าเขตโทษทางซ้ายก่อนจะยิงอัดด้วยขวาส่งบอลชนเสาเด้งมาโดน วอยเชียค เชสนี่ เข้าประตูไป

โปแลนด์ พยายามบุกเอาคืน นาทีที่ 34 เกอร์เซกอร์ซ ครีโคเวียค ได้โอกาสสับไกหน้าเขตโทษแต่บอลเหินออกหลัง

โปแลนด์ ลุยมาอีกครั้งในนาที 42 แต่หนนี้ มาเซียจ รีบุส เปิดให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เข้าชาร์จหลุดกรอบแบบไม่ได้ลุ้น

ครึ่งหลังผ่านไป 30 วินาที โปแลนด์ ตีเสมอ 1-1 มาเตอุส คลิก ชิ่งมาให้ มาเซียจ รีบุส สอดเข้าเขตโทษทางซ้ายก่อนตบเข้าใน คาโรล ลิเน็ตตี้ ยิงโดนม่เต็มแต่บอลไหลผ่านมือ มาร์ติน ดูบราฟก้า เข้าเสาไกล

แต่นาทีที่ 62 โปแลนด์ เหลือ 10 คน ในจังหวะ เกอร์เซกอร์ซ ครีโคเวียค ไปตัดฟาวล์ ยาคุบ ฮโรมาดา ส่งผลให้ดดนเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม

เป็นทาง สโลวาเกีย ที่ออกนำ 2-1 ในนาที 69 จากเตะมุมทางขวา โรเบิร์ต มัค เปิดมาเสาแรก มาเร็ค ฮัมชิค สะกิดเข้ากลาง มิลาน ชกรีนยาร์ เหยียดขาเกี่ยวบอลก่อนจะยิงด้วยขวาเสียบมุมซ้ายมือ 

โปแลนด์ บุกหวังเอาตืนอีกครั้งช่วงทดเวลาพลาดโอกาสทองเมื่อ ยาน เบดนาเร็ค ได้หวดจ่อๆ แต่หลุดเสาออกไปน่าเสียดาย จบเกม สโลวาเกีย เอาชนะไปได้ 3-0 พร้อมเก็บ 3 คะแนนไปนอนกอด


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

โปแลนด์: วอยเชียค เชสนี่ - บาร์ตอส เบเรสซินสกี้, คามิล กลิค, ยาน เบดนาเร็ค, มาเซียจ รีบุส - คาโรล ลิเน็ตตี้, เกอร์เซกอร์ซ ครีโคเวียค, มาเตอุส คลิก - คามิล ยอซเวียค, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ปิโอเตอร์ เซลินสกี้


สโลวาเกีย: มาร์ติน ดูบราฟก้า - ปีเตอร์ เปคาริค, ลูโบเมียร์ ชาตก้า, มิลาน ชกรีนยาร์, โตมาช ฮูโบชาน - ลูคาช ฮาราสลิน, ยูราย กุชก้า, ยาคุบ ฮโรมาดา, โรเบิร์ต มัค - มาเร็ค ฮัมชิค - ออนเดรย์ ดูด้า


ผู้ตัดสิน : โอวิดู ฮาเตกาน (โรมาเนีย) 


ขอบคุณข้อมูล 

ติดตามบทความได้ที่ : https://www.thsport.com/news-118233.html