สิงห์พลาดโดนไบรท์ตันตี1-1

ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ผ่านไปถึงนาทีที่ 16 สิงโตน้ำเงินคราม มีโอกาสออกนำจากเตะมุมที่ โรเบิร์ต ซานเชซ ออกมาชกพลาดก่อนบอลเข้าทาง เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ยิงติดบล็อกบอลพุ่งชนเสาเด้งออกมา

จากจังหวะต่อเนื่อง รีซ เจมส์ ครอสเข้ามาให้ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ โขกแต่บอลตรงตัว โรเบิร์ต ซานเชซ 

เชลซี ลุยมาอีกครั้งในนาทีที่ 25 หนนี้เป็นจังหวะสวนกลับ โรเมลู ลูกากู ครองบอลก่อนไหลให้ เมสัน เมาท์ สอดขึ้นไปยิงยัดเสาแรกแต่ติดเท้า โรเบิร์ต ซานเชซ

เจ้าบ้านได้เฮในนาทีที่ 28 จากลูกเตะมุมทางขวาเหมือนเดิม เมสัน เมาท์ เปิดมาให้ โรเมลู ลูกากู หนีตัวประกบก่อนขึ้นโขกกดบอลลงพื้นกระดอนเสียบตาข่าย แม้ วีเออาร์ จะตรวจดูว่ามีการฟาวล์หรือไม่แต่ท้ายที่สุดเป็นประตู

ไบรท์ตัน ได้โอกาสตีเสมอในนาที 38 จากจังหวะงัดกันในกรอบเขตโทษก่อนบอลเข้าทาง อดัม ลัลลาน่า หวดด้วยซ้ายติดเซฟ เอดูอาร์ เมนดี้ 

เดอะ ซีกัลส์ ทำได้ดีกว่าในช่วงท้ายครึ่งแรก โดยมีลุ้นจาก อเล็กซิส แม็คคัลลิสเตอร์ แต่บอลเข้ามือ เอดูอาร์ เมนดี้

ทีมเยือนลุยต่อเนื่อง นาทีที่ 52 ได้ลุ้นจากฟรีคิกซึ่งทาง อเล็กซิส แม็คคัลลิสเตอร์ ยิงอย่างสวยแต่ไม่ผ่าน เอดูอาร์ เมนดี้ จากนั้นประตูเจ้าบ้านต้องออกแรงเซฟลูกยิง อีฟส์ บิสซูม่า

นกนางนวล มาใหม่ หนนี้เป็นทีของ นีล โมเป กองหน้าตัวเก่ง แต่จังหวะสับไกบอลหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

จนแล้วจนรอดทีมเยือนได้เฮช่วงทดเวลาจาก มาร์ก กูกูเรย่า ครอสมาให้ แดนนี่ เวลเบ็ค โขกเสียบมุม จบเกมเสมอ 1-1 แบ่งแต้มกันไป โดยทาง เชลซี ขึ้นมาอยู่ที่ 2 แต่ทาง ลิเวอร์พูล แข่งน้อยกว่า 1 นัด ส่วน ไบรท์ตัน อยู่ที่ 10