ก่อนจะถึงซลาตัน! ย้อนรอย 3 แข้งผีแดงเลือดสวีดิช

หลังจาก ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ประกาศผ่านโซเชียลทุกช่องทางของตัวเองแล้วว่า สถานีต่อไปของเขาอยู่ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นั่นทำให้เขากลายเป็นนักเตะสัญชาติสวีเดนรายที่ 4 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแล้ว ส่วน 3 รายที่ผ่านมามีใครกันบ้าง ไปดูกัน

ปีกซ้ายผู้มีเอกลักษณ์คือการเอาเสื้อแขนยาวมาคลุมฝ่ามือรายนี้ ย้ายมาปาร์มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ปี 1998 ด้วยค่าตัว 4.4 ล้านปอนด์ เพื่อมาเป็นแบ็คอัพของ ไรอัน กิ๊กส์ และที่ทุกคนจำได้ดีคือการเป็นหนึ่งในขุนพลชุดสามแชมป์ในฤดูกาลประวัติศาสตร์ 1998-1999 นั่นเอง ซึ่งเขาได้ลงเล่นไปถึง 38 นัด ยิงได้ 1 ลูก ในเกมลีกคัพที่บุกชนะเอฟเวอร์ตัน 4-1 แต่โชคร้ายที่สองฤดูกาลหลังจากนั้น เขาก็ไม่ได้ลงเล่นให้ปีศาจแดงอีกเลย เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรง ก่อนจะถูกปล่อยตัวให้เอฟเวอร์ตันในปี 2001 โดยปัจจุบันแฟนผียังสามารถพบเห็นเขาได้ตามฟุตบอลการกุศล รวมพลอดีตแข้งปีศาจแดง ที่เจ้าตัวมักจะไม่ค่อยพลาด มาร่วมโชว์เพลงแข้งด้วยเสมอ

มิดฟิลด์เชื้อสายเซอร์เบีย ย้ายจากทีมเล็กๆในสวีเดนอย่าง บรอมมาพอยการ์นา (IF Brommapojkarna) มาร่วมทัพปีศาจแดงในปี 1999 และแม้จะเคยคว้ารางวัล จิมมี เมอร์ฟี เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์ อวอร์ด หรือรางวัลแข้งเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปียอดเยี่ยมของทีมมาครองได้ในปี 2000 ด้วย แต่กลับได้โอกาสลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่เพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น ก่อนจะพเนจรย้ายทีมไปอย่างมากมายเกิน 10 สโมสร กระทั่งลงเล่นให้เชนไนยิน ทีมในลีกอินเดียเป็นสังกัดสุดท้ายก่อนแขวนสตั๊ดในปี 2015 โดยปัจจุบันแฟนผีก็สามารถพบเห็นเขาได้บ้างในกรณีเดียวกับ บลอมควิสต์

รุ่นพี่ของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ในทีมชาติสวีเดน ถูก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กล่อมให้มาค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แบบระยะสั้นยืมตัว 3 เดือนจากทีมในบ้านเกิดอย่างเฮลซิงบอร์ก ระหว่างช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมปี 2007 ซึ่งเป็นช่วงที่ลีกสวีเดนปิดฤดูกาลพอดี ซึงขณะนั้นเขามีอายุมากถึง 35 ปีแล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นนักเตะที่มาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปในช่วงนั่นของปีศาจแดงได้ดีทีเดียว โดยผลงานการยิงไป 3 ประตู จากการลงเล่น 13 นัดรวมทุกถ้วย (แยกเป็นลูกละถ้วยเสียด้วย) รวมถึงยังเข้ามาช่วยยกระดับดาวรุ่งของทีมอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ และ เวย์น รูนีย์ ให้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นด้วย น่าเสียดายที่เจ้าตัวตัดสินใจไม่ขยายสัญญายืมตัวออกไปจนจบฤดูกาล แม้ว่าเฟอร์กี้จะพยายามขอร้องแล้วก็ตาม แต่ ลาร์สสัน ก็ถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญของชุดนั้นที่กลับมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง จนสโมสรต้องทำเรื่องขอส่งเหรียญรางวัลไปให้เจ้าตัวเป็นกรณีพิเศษด้วย แม้ว่าจะลงเล่นไม่ถึงเกณฑ์ที่จะได้เหรียญก็ตาม นับได้ว่าลีลาการเล่นเขายังยังตราตึงใจแฟนผีหลายคนอยู่มาก แม้จะมาร่วมทีมแค่ช่วงสั้นๆ โดยปัจจุบันเขาก็ผันตัวมาเป็นกุนซือของทีมคู่บุญอย่าง เฮลซิงบอร์ก ตั้งแต่ปี 2015 อีกด้วย