โพสต์โดย : Admin เมื่อ 16 ต.ค. 2559 14:59:04 น. เข้าชม 719 ครั้ง แจ้งลบ
สิงโตน้ำเงินครามกุมความได้เปรียบจากประตูนำถึง 2 ลูกตั้งแต่ครึ่งแรก ก่อนไล่ถล่มแชมป์เก่าไม่ไว้หน้า 3-0
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่เปิดสนามของวันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม 2016 ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นการพบกันระหว่าง เชลซี ทีมอันดับ 7 ของลีก ที่ลงแข่ง 7 นัด มีอยู่ 13 คะแนน รับการมาเยือนของ เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 12 ของลีก ที่มี 8 คะแนน จากการลงแข่ง 7 นัด
อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือเจ้าถิ่น ล่าสุดพาทีมเก็บชัยชนะในรอบ 4 เกม โดยบุกไปชนะฮัลล์ ซิตี้ 2-0 เกมวันนี้ขาด 3 นักเตะอย่าง เคิร์ท ซูมา และจอห์น เทอร์รี ในตำแหน่งกองหลังเช่นเดิม รวมถึงวิลเลียน นอกนั้นขุมกำลังหลักพร้อมลงสนามถ้วนหน้า ในระบบ 3-4-3 ทั้งธิโบต์ กูร์ตัวส์ ในตำแหน่งผู้รักษาประตู แผงหลังสามคนมีเซซาร์ อัธปิลิกวยต้า, ดาวิด ลุยซ์ และแกรี เคฮิลล์ ตรงกลางใช้เอ็นโกโล ก็องเต้ ยืนคู่กับเนมานยา มาติช ขณะที่แผงเกมรุกมีเอเด็น อาซาร์ และ ดิเอโก้ คอสต้า เป็นตัวชูโรง
ด้านทีมผู้มาเยือนอย่างเลสเตอร์ ซิตี้ขาดเพียง นัมพาลีย์ เมนดี้ รายเดียวที่ยังมีอาการบาดเจ็บ ที่เหลือไม่มีปัญหาในการจัดทัพ ผู้รักษาประตูยังคงวางใจแคสเปอร์ ชไมเคิล ลงเฝ้าเสา เกมรับมีโรเบิร์ต ฮูธ จับคู่กับเวส มอร์แกน ในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง คู่กองกลางใช้แดนนี ดริ๊งวอเตอร์ ประสานงานกับ ดาเนียล อาร์มาตีย์ ส่วนเกมรุกฝากความหวังไว้ที่อาห์เหม็ด มูซาและเจมี วาร์ดี้ ในระบบ 4-4-2 ขณะที่ริยาด มาห์เรซ และอิสลาม สลิมานี มีชื่ออยู่บนม้านั่งสำรอง
เริ่มเกมได้ 5 นาที เชลซีมีโอก่าสทักทายเลสเตอร์ก่อนถึง 2 ครั้ง 2 ครา เริ่มจากโอกาสลุ้นยิงนอกกรอบเขตดทษของอาซาร์ แต่สุดท้ายปีกเบลเยียมกลับยิงหลุดออกไปไกล และจังหวะกึ่งยิงกึ่งผ่านของโมเซส ที่ยังไม่ผ่านมือชไมเคิล
จากนั้นอีก 2 นาที เจ้าถิ่นมาได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะบุกต่อเนื่อง และเป็นโอกาสจากลูกเตะมุมทางฝั่งขวาของอาซาร์ ที่ครอสมาเข้าทางมาติช ก่อนที่กองกลางชาวเซอร์เบียจะดีดบอลมาให้คอสต้า ได้โอกาสยิงจ่อๆหน้าปากประตูเข้าไปไม่เหลือ เชลซีขึ้นนำเลสเตอร์ 1-0 ในนาทีที่ 7
นาทีที่ 18 เชลซีพลาดได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่ก็องเต้ยกบอลผ่านแนวรับจิ้งจอกสยาม 3-4 คน มาเข้าทางอาซาร์ ที่ได้โอกาสหลุดเข้าไปดวลกับชไมเคิล แต่สุดท้ายดาวเตะหมายเลข 10 กลับบังคับบอลเพื่อหาโอกาสยิงด้วยเท้าข้างถนัดไม่ดีนัก ก่อนที่บอลจะหลุดออกหลังไป จากนั้นนาทีที่ 27 สิงห์บลูได้โอกาสกดดันเกมรับทีมเยือนอีกครั้ง เมื่อลูกยิงฟรีคิกระยะ 25 หลาของลุยซ์ไปชนเสาอย่างจัง
เชลซีได้ประตูนำห่าง 2-0 ในนาทีที่ 33 จากจังหวะลูกขยันของเปโดร ที่แม้จะถูกฟุชส์เข้ากดดันจนล้มลงไปแล้ว แต่เจ้าตัวยังเหยียดเท้าตัวเองจ่ายบอลให้กับอาซาร์ ก่อนที่ปีกเบลเยียมจะอาศัยทิศทางบอลตกบนหัวแต่งจนเข้าเท้า พร้อมลากเข้าไปในเขตโทษหนีชไมเคิล ซัดบอลตุงตาข่าย เวลาที่เหลือของครึ่งเวลาแรกยังคงเป็นลูกทีมของคอนเต้ ที่เดินหน้าครองบอล หาโอกาสบุกใส่ทีมแชมป์เก่าอยู่ฝ่ายเดียว ขณะที่เลสเตอร์หาโอกาสโจมตีกลับได้น้อยครั้ง โดยได้โอกาสบุก 1 หนจากลูกโขกของมูซา ที่บอลหลุดเสาไปไกล ในนาทีที่ 43 หมดครึ่งแรก เชลซียังคงนำอยู่ 1-0
เปิดครึ่งหลังเลสเตอร์เริ่มตั้งเกมบุกใส่ได้มากกว่าครึ่งแรก โดยมีโอกาสทักทายเชลซีทันทีในนาทีที่ 52 จากลูกตวัดยิงของมูซา แต่บอลก็ยังหลุดออกไปไกล และโอกาสอีกครั้งช่วงต้นเกมโดยอัลไบรจ์ตัน ที่รับบอลจากมูซาพร้อมได้โอกาสสับบริเวณหัวกระโหลก แต่ก็ยังไม่เข้ากรอบ ในนาทีที่ 53
ถัดมานาทีที่ 57เชลซีได้โอกาสทักทายแบบได้ลุ้นอีกครั้ง จากลูกโต้กลับที่ก็องเต้ ตัดสินใจพาบอลกว่าครึ่งสนาม ก่อนจะจ่ายให้โมเซสหลุดเข้าไปดวลกับชไมเคิล แต่ท้ายที่สุดปีกไนจีเรียซัดไปติดมือนายทวารชาวเดนมาร์กหวุดหวิด
แม้รานิเอรีจะเปลี่ยนเอามาห์เรซและสลิมานีลงสนามในนาทีที่ 67 และ 68 แต่สุดท้ายทัพจิ้งจอกสยามยังไม่อาจกดดันเอาชนะเกมรับของเจ้าถิ่น ที่ครึ่งหลังเดินเกมที่รัดกุม ไม่เปิดหน้าบุกเหมือนครึ่งแรกได้
โอกาสลุ้นประตูอีกครั้งของเชลซีเกิดขึ้นนาทีที่ 72 เมื่อก็องเต้ที่ได้โอกาสซัดเหน่งๆหน้าปากประตูเลสเตอร์ แต่สุดท้ายเป็นมอร์แกน กัปตันทีมเยือนเข้ามาสกัดออกไปแบบฉิวเฉียด เวลาที่เหลือสกอร์ยังคงเดิม ไม่มีทีมได้บวกประตูได้
จากนั้นนาทีที่ 80 เชลซีได้ประตูที่สามจากจังหวะลากบอลทางริมเส้นฝั่งขวาของโมเซสมาลุ้นในเขตโทษ ก่อนที่ชาโลบาห์ ตัวสำรองที่เปลี่ยนมาในครึ่งแรกจะตอกส้นกลับมาให้โมเซส ได้โอกาสยิงแบบไม่จับ บอลไหลซุกก้นตาข่าย เชลซีหนีห่างเลสเตอร์ 3-0
หมดเวลาการแข่งขัน เชลซีเปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ ชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 3-0 คว้าเพิ่มอีก 3 คะแนน พร้อมขยับเป็น 16 คะแนน ขณะที่แชมป์เก่ายังคงมี 8 คะแนนเช่นเดิม
ที่มา: http://www.goal.com/th
