อุทาหรณ์สอนชีวิต : 10 แข้งดังที่กลายเป็นบุคคลล้มละลายแบบไม่น่าเชื่อ

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 9 พ.ย. 2559 11:05:20 น. เข้าชม 954 ครั้ง แจ้งลบ

นักฟุตบอล! คืออาชีพที่ใครๆหลายคนในโลกต้องการจะเป็น เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าตาในสังคมที่จะได้กลับมาเเล้วเม็ดเงินหรือผลตอบแทนมันก็สูงลิบลิ่วหากเทียบกับประชาชนคนทั่วไป วันนี้ FFT จะมาสาวลึกถึง 10 นักเตะที่แม้จะมีรายรับมหาศาลแต่ต้องกลับกลายมาเป็นบุคคลล้มละลายแบบสุดช็อค ... ไปติดตามกันได้เลยครับผม

1. พอล แกสคอยน์

เก่งแค่ไหนก็ไม่รอดหากใช้เงินจนเกินตัว พอล แกสคอยน์ คือยอดนักเตะแห่งวงการฟุตบอลอังกฤษจนได้ฉายาว่า "อัจฉริยะ" ในช่วงที่เขายังค้าเเข้งอยู่

ในช่วงที่ยังเป็นวัยรุ่น "แก๊ซซ่า" ขึ้นื่อว่าเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์มากที่สุด เขาเป็นเด็กท้องถิ่นของชาว จอร์ดี้ ก่อนเริ่มค้าแข้งสร้างชื่อกับ นิวคาสเซิล และ ฮ็อตสุดๆในสมัยอยู่กับ ท็อตแน่ม ฮ็อตเสปอร์

ไม่ใช่แค่ฝีเท้าเท่านั้นที่หาตัวจับยาก แก๊ซซ่า ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะจอมปาร์ตี้และคอทองแดงแบบไม่มีใครเกิน อย่างไรก็ตามต่อให้เขาสำมะเรเทเมาแค่ไหนเขายังสามารถเล่นฟุตบอลได้ยอดเยี่ยมอยู่มันจึงไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับต้นสังกัดของเขาในเวลานั้น

สุดท้ายเเล้วเรื่องแย่ๆก็มาเล่นงานเขา ในวัย 41 ปี แกสคอยน์ ถูกสั่งฟ้องว่าเป็นบุคคลล้มละลายในช่วงปี 2008 หนี้ของเขาปรากฎชัดเจนจนชนิดที่ว่าทีมงานทนายต้องให้สัมภาษณ์แกมถอดใจว่า “มันช่างน่าเศร้ามาก เพราะบุคคลล้มละลายจะต้องถูกแจ้งความดำเนินคดี หวังว่าเจ้าหนี้ของ แกซซา จะใจดีให้โอกาสเขาได้ลืมตาอ้าปากต่อไป”

มันสายไปแล้วที่เขาจะกลับตัว แกสคอยน์ กลายเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังเขาต้องเข้ารับบำบัดอาการติดเหล้้ามาจนถึงทุกวันนี้ แต่นั่นก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้ มีการรายงานว่าทรัพย์สินที่เขาเคยสร้างวัยสมัยค้าแข่้งนั้นมากถึง 14 ล้านปอนด์ แต่ตอนนี้นั้นเขาแทบที่จะไม่เหลือเงินติดตัวเลยด้วยซ้ำ


2. คริส ซัตตัน

อดีตดาวยิงดีกรีทีมชาติอังกฤษคือเจ้าของสถิตินักเตะที่ค่าตัวเกิน 5 ล้านปอนด์คนแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษด้วยการย้ายจาก นอริช ซิตี้ ไปอยู่กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในปี 1994

ซึ่งหลังจากประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ลีกสูงสุดกับกุหลาบไฟเขาก็ยังเป็นนักเตะที่มีค่าตัวถึง 10 ล้านปอนด์ ด้วยการย้ายไปอยู่กับ เชลซี ในปี 1999 อีกต่างหาก อย่างไรก็ตามนั้นไม่ได้ชี้วัดว่าเขาจะประสบความสำเร็จเสมอไป

ซัตตัน มีที่ปรึกษาเรื่องการเงินที่ไม่ค่อยดีนัก นั่นทำให้เขาเริ่มจมลงกับกองนี้มากขึ้นเรื่อยๆ และเรื่องหายนะที่สุดก็มาเยือนเขาจนได้ในปี 2014 เขาโดยศาลสั่งฟ้องว่าเป็นบุคคลล้มละลายในที่สุด ... หากคุณคิดว่านี่จมแล้วนั่นยังหรอกนะครับ!

อย่างที่บอกว่าชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน หลังจากโดนฟ้องว่าล้มละลาย ซัตตัน กลับมาทำธุรกิจสู้กับวิกฤติชีวิตของเขาอีกครั้ง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเขาใช้เวลาแค่ปีเดียวเท่านั้นล้างหนี้ทั้งได้สำเร็จก่อนจะเริ่มฟันกำไรหลังจากนั้นไปแล้วกว่า 150,000 ปอนด์



3. เอริค เฌมบ้า เฌมบ้า

เชื่อว่าชื่อนี้ยังฝังอยู่ในส่วนลึกของแฟนๆแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างแน่นอน และในวัย 35 ปี ปัจจุบันนี้เขายังค้าแข้งอยู่กับ เปอร์สิปา ปาดาลารัง ทีมในลีกอินเดีย

มิดฟิลด์ตัวรับชาวแคเมอรูนแจ้งเกิดได้ในสมัยที่ยังเล่นกับ น็องต์ ทีมในลีกเอิง ซึ่งตอนนั้นเขาได้ฉายาว่า "นิว ปาตริก วิเอร่า" เลยทีเดียว และหลังจบฤดูกาล 2002-2003 ก็โชว์ฝีเท้าจนเข้าตาแมวมองของ ปีศาจเเดง จนยอมจ่ายเงิน 3.5 ล้านปอนด์เพื่อซื้อตัวเขามาร่วมทีม

ดวยความที่มีพื้นเพมาจากครอบครัวที่ยากจนจากแอฟริกันทำให้มีข่าวว่าในช่วงปี 2003 เป็นต้นมา เฌมบ้า เฌมบ้า ใช้ชีวิตในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ดั่งเช่นสามล้อถูกหวย เขาพร้อมใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยกับทุกๆสิ่งด้วยค่าเหนื่อยราว 60,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

ท้ายที่สุดแล้วอะไรก็ไม่จีรัง เมื่อผลงานในสนามห่วยแตกเกินเยียวยา บอร์ดบริหารของปีศาจเเดงก็ไม่รู้ว่าจะเก็บเข้าไว้ทำไมจึงขายเขาให้กับ แอสตัน วิลล่า และหลังจากนั้นในฐานะนักฟุตบอลเขาก็ไม่สามารถกลับมายืนอยู่บนจุดสูงสุดได้อีกเลย จนกระทั่งในปี 2007 ด้วยการวางแผนการเงินที่ผิดพลาดและใช้จ่ายจนเกินตัว เฌมบา เฌมบา ก็โดนฟ้องว่าเป็นบุคคลล้มละลายในที่สุด


4. พอล เมอร์สัน

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหนึ่งในนักเตะระดับตำนานของ อาร์เซน่อล อย่าง พอล เมอร์สัน ก็เป็นหนึ่งในบุคคลล้มละลายเช่นกัน แต่ด้วยเหตุผลที่แตกต่างจากคนอื่นๆ

เมอร์สัน คือนักเตะของไอ้ปืนใหญ่ชุดคว้าดับเบิ้ลแชมป์ภายใต้การคุมทีมของ จอร์จ เกรเเฮม และการเป็นนักเตะระดับ ซูเปอร์สตาร์ ในเวลานั้นทำให้ เมอร์สัน มีรายได้จากทุกช่องทางราว 35,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ซึ่งนั่นก็นับว่ามากโขสำหรับวงการฟุตบอลในช่วงเกือบๆ 20 ปีที่เเล้ว

มีข่าวลือซุบซิบมาว่าสิ่งที่ฉุดเขาลงนรกนั้นคือการติดยาเสพติดเป็นปัจจัยหลัก เมอร์สัน เอามันเสียทุกตัวยานอกจากนี้ยังเป็นนักปาร์ตี้ตัวยงและที่สำคญอีกอย่างคือการพนัน เมื่อ 3 ปัจจัยเเห่งหายนะฟิวชั่นกันแล้วก็ไม่แปลกอะไรเลยที่ เมอร์สัน จะมีหนี้ร่วม 5 ล้านดอลล่า(ราวๆ 3 ล้านปอนด์) จนทำให้เขาต้องกลายเป็นบุคคลล้มละลายในที่สุดและ นั่นทำให้เขาถึงกับต้องขายสมบัติเก่าๆที่สะสมมาแทบทั้งชีวิตไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ซูเปอร์คาร์ , บ้าน และ อสังหาริมทรพย์ทั้งหลายแหล่เพื่อปลดหนี้

ปัจจุบันนับว่าเป็นช่วงเวลาที่เขาพลิกฟื้นชีวิตกลับมารุ่งโรจน์ได้อีกครั้ง เมอร์สัน รับหน้าที่เป็นนักวิจารณ์ฟุตบอลของช่องกีฬาดัง "สกาย สปอร์ต" และกำลังมีบทบาทอย่างมากบนหน้าจอทีวีของอังกฤษ



5. คีธ กิลเลสพี

เป็นอีกครั้งที่การพนันนำหายชนะมาสู่นักเตะฝีเท้าดีจนกระทั่งเสียคนไปเลย และ กิลเลสพี คือหนึ่งในนั้น

อดีตเด็กปั้นที่มีแววของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ทว่าการมีแข้งระดับพรสวรรค์มากกว่าอยู่ในทีมเวลานั้นทำให้ กิลเลสพี ต้องหาทางขยับขยายย้ายทีมในเวลาต่อมาก่อนจะสร้างชื่อได้ด้วยการแจ้งเกิดกับ นิวคาสเซิล และ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส

แม้ฝีเท้าจะพอไปวัดไปว่าแต่การใช้ชีวิตของนั้นต้องบอกว่ามีผลตรงๆต่อการส่งตัวเองลงสู่จุดตกต่ำเกินกว่าที่ควรจะเป็น ในช่วงนั้นอะไรที่เรียกว่าหายนะ กิลเลสพี ฟาดเรียบ!!

มันเริ่มด้วยทัศนาคติแย่ๆที่ตัวเขามี กิลเลสพี ดื่มหนักไม่สนโลกมาแต่ไหนแต่ไร นอกจากนี้เขายังเป็นผีพนันตัวจริงเสียงจริง ลือกันว่าเขาเคยวางเดิมพันด้วยเงิน 100,000 ปอนด์กับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทว่ายังไม่แน่ชัดว่าเป็นการเดิมพันเรื่องอะไร

ยังครับ! ยังก่อน นอกจากเหล้าและพนันเเล้ว กิลเลสพี ยังเสพยาเสพติดอย่างหนักหน่วงอีกต่างหาก เลวร้ายกว่านั้นยังมีข่าวซุบซิบว่าเขานั้นติดเชื้อ เอดส์ อีกด้วย

ส่วนเรื่องหนี้และการล้มละลายนั้นก็มีสาเหตุหลักๆเหมือนที่ได้กล่าวมาข้างต้น ว่ากันว่าเขามีหนี้ติดตัวถึง 7 ล้านปอนด์ หรือหากจะเทียบเป็นเงินบาทให้ตกใจกันเล่นๆนั่นเท่ากับ 300 ล้านบาทโดยประมาณเลยทีเดียว


6. ยอห์น อาเน่ รีเซ่

แบ็คซ้านตีนระเบิดอย่าง รีเซ่ ที่ครั้งหนึ่งเคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดของชีวิตค้าแข้งมาเเล้วด้วยการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ ลิเวอร์พูล ก็ไม่รอดที่จะล้มละลายได้เช่นกัน

ไม่น่าเชื่อว่าจากที่ครั้งหนึ่งเขาเป็นนักเตะที่มีรายรับราว 80,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์จะถูกฟ้องล้มละลายด้วยหนี้จำนวนแค่ 100,000 ปอนด์เท่านั้น หากทีมกับรายรับของเขาเเล้วมันไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลยสำหรับเงินจำนวนแค่นี้

อีกหนึ่งบ่อเกิดแห่งความบัดซบของ รีเซ่ ก็เกิดจากการที่เขาแตกคอกับ ไอนาร์ บาร์ดเซ่น อดีตเอเย่นต์ของเขา ก่อนเรื่องราวจะพันกันอีรุงตุงนังและบทสรุปคือ เขาต้องสู้คดีในข้อหาฉ้อโกงกันด้วยจำนวนเงินอยู่ที่ราวๆ 5 ล้านดอลล่า (3 ล้านปอนด์ โดยประมาณ) โดยกองหลังทีมชาตินอร์เวย์ โดนนำเงินไปลุงทุนทำธุรกิจมากมายและล้มเหลวไม่เป็นท่าทำให้ต้องเป็นหนี้ไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งขัดแย้งและเลิกเป็นนายหน้ากันในปี 2005

ปัจจุบันในวัย 36 ปี รีเซ่ ยังคงค้าแข้งอยู่กับ เชนไนยิน ทีมจาก อินเดีย ลีก




7. เซเลสติน บาบายาโร่

ช่วงรุ่งเรืองที่สุดของชีวิตค้าแข้ง บาบายาโร่ เจ้าของเหรียญทอง โอลิปิค ปี 1996 กับทีมชาติ ไนจีเรีย และครั้งหนึ่งเขาเคยทำได้เงินค่าเหนื่อยได้ราว 30,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เลยทีเดียว

การเป็นแบ็คซ้ายฝีเท้าดีรายนี้โดนศาลสั่งฟ้องล้มละลายในช่วงเดือน กรกฎาคม ปี 2010  หลังจากที่เขาประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนักทั้งๆที่เขาเป็นนักเตะได้รับค่าเหนื่อยในระดับน่าพอใจเสมอมาไม่ว่าจะเป็นการอยู่กับ เชลซี , นิวคาสเซิล และ เเอลเอ กาแล็กซี่

เช่นเคยเหมือนเป็นธรรมเนียมของวงการบอลผู้ดี เดอะ ซัน สื่อจอมแฉก็สืบเสาะเรื่องราวมาว่าสาเหตุการถูกฟ้องล้มละลายครั้งนี้มากกจากเหตุผลเดิมๆนั่นคือการดื่มกินและใช้ชีวิตหรูหรา ท้ายที่สุดเเล้วเขาต้องย้ายออกและจำใจขายบ้านพักสุดหรูของเขาในแถบ เซอร์เรย์ ที่มีมูลค่ากว่า 475,000 ปอนด์  

ปัจจุบันในวัย 38 ปี บาบายาโร่ เเขวนสตั๊ดไปตั้งแต่ปี 2008 โดยสโมสรสุดท้ายที่เขาค้าแข้งด้วยคือ แอลเอ กาแล็กซี่ ซึ่งก็อยู่ในช่วงเวลาเดียวกับที่ เดวิด เบ็คแฮ่ม เป็นสมาชิกในทีมอีกด้วย


8. เดวิด เจมส์

อดีตผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมชาติอังกฤษได้ออกมายอมรับว่าเขาเองอยู่ในสภาพบุคคลล้มละลายในช่วงปี 2014 และนั่นเป็นเรื่องที่ช็อควงการฟุตบอลอังกฤษพอสมควรเลยทีเดียว

สมัยที่ยังค้าแข้งนั้น เจมส์ เป็นนายทวารมือดีเขาอยู่กับทีมใหญ่ๆในพรีเมียร์ลีกมามากมายไม่ว่าจะเป็น ลิเวอร์พูล , แอสตัน วิลล่า , เวสต์แฮม , แมนฯ ซิตี้ ส่วนปีที่ประสบความสำเร็จที่สุดในชีวิตคือช่วงปี 2008 ที่เขาได้แชมป์ เอฟเอ คัพ กับทีมม้ามืดอย่าง พอร์ทสมัธ

วกกลับมาที่เรื่องเงินๆทองๆกันอีกครั้ง ว่ากันว่าต้นเหตุการเป็นหนี้และโดนฟ้องล้มละลายของเขามาจากการหย่าร้างกับภรรยาในปี 2005 ที่ภรรยาจอมแสบของเขาฟ้องร้องค่าชดเชยไปถึง 3 ล้านปอนด์เลยทีเดียว นั่นทำให้ เจมส์ สูญเสียทั้งที่ดินทรัพย์และสินส่วนตัวไปเป็นจำนวนมาก

แต่จะว่าใครก็มากก็ไม่ได้ หากเจาะลึกลงไปที่สาเหตุของการหย่าร้าง เจมส์ เองก็มีส่วนผิดเต็มๆเพราะเขาเองก็แอบมีสัมพันธ์สวาทกับเพื่อนเก่าที่มีชื่อว่า อเเมนด้า ซัลมอน  ... เป็นเช่นนั้นเองจากคนที่มีมีทรัพย์สินกว่า 6 ล้านปอนด์ก็กลายเป็นคนล้มละลายได้ง่ายๆเพราะเรื่องเล็กๆแบบนี้แหละ อนิจจา



9. แบรด ฟรีเดล

ฟรีเดล คือผู้รักษาประตูมือดีที่สุดเป็นลำดับต้นๆสำหรับทีมชาติสหรัฐอเมริกา เขาประสบความสำเร็จสุดๆในการมาค้าเเข้งบนเวทีพรีเมียร์ลีกกับหลายต่อหลายทีม

ฟรีเดล นั้นเริ่มสร้างชื่อเป็นนายทวารจอมหนึบกับ ลิเวอร์พูล และจากการได้เป็นตัวสำรองทำให้เขาต้องย้ายไปอยู่กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และประสบความสำเร็จอย่างมากกับก่อนจะย้ายไปอยู่กับ แอสตัน วิลล่า และ สเปอร์ส ในเวลาต่อมา เรียกว่า 15 ปีบนเวทีพรีเมียร์ลีกนั้นมือกาวชาวมะกันรักษามาตรฐานตัวเองได้อย่างน่าชื่นชม

ทว่าไม่น่าเชื่อเช่นกัน ครั้งหนึ่ง ฟรีเดล เคยรับค่าเหนื่อยราว 40,000 ปอนด์ในสมัยที่อยู่กับ วิลล่า จะกลายเป็นบุคคลล้มละลายได้ ... เดอะ มิร์เร่อร์ เปิดเผยถึงสาเหตุครั้งนีว่ามันเริ่มจากการค้างชำระเงินเป็นจำนวนถึง 5 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

บริษัทเงินทุน อาร์บีเอส ซีติเซ่น สั่งฟ้อง ฟรีเดล ในช่วงปี 2011 ต้นเหตุมาจากการที่เขานั้นกู้เงินเพื่อสร้างโรงเรียนสอนฟุตบอลที่ อเมริกา ในปี 2007 ทว่าผลประกอบการก็คงเดาไม่ยากว่าเป็นอย่างไร เขาขาดทุ่นย่อยยับจนเป็นที่มาของการฟ้องล้มละลายครั้งนี้นี่เอง

ผลสรุปหลังเกิดเหตุครั้งนี้ก็คือ ฟรีเดล โดนยึดหมดทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเงินเก็บหรือบ้านหรูของเขาในราคา 260,000 ปอนด์  


10. ลี เฮนดรี้

แฟนบอลพรีเมียร์ลีกในยุค 2000 ต้นๆคงรู้จักชื่อนี้เป็นอย่างดี ลี เฮนดรี้ คือมิดฟิลด์ร่างเล็กพลังไดนาโมของ แอสตัน วิลล่า และร่วมทุกร่วมสุขกับสโมสรมากว่า 12 ปีเลยทีเดียว ช่วงเวลาที่ เฮนดรี ฮ็อตที่สุดในชีวิตค้าแข้งคือฤดูกาล 2001-02 ที่พา วิลล่า จบฤดูกาลด้วยอันดับ 8 และคว้าตัวไปเล่นฟุตบอลอินเตอร์ โตโต้ คัพในปีนั้น

ครั้งหนึ่งเขาเคยมีนักเตะที่มีรายรับกว่า 50,000 ดอลล่าต่อสัปดาห์ ทว่าเมื่อถึงช่วงขาลง เฮนดรี ต้องระหกระเหินไปกับทีมต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็น สโต๊ค , เชฟฯ ยูไนเต็ด , เลสเตอร์ , ดาร์บี้ และลากยาวไปจนถึงทีมในระดับลีกที่ตำที่สุดอย่าง แทมเวิร์ธ ในปี 2012

เมื่อฝีเท้าต่ำลงแต่การใช้เงินยังฟุ่มเฟือยเหมือนเดิมเขาใช้เงินไปกับรถหรูและคฤหาสน์เป็นว่าเล่นจนในที่สุดเขาก็โดนประกาศว่าเป็นบุคคลล้มละลายในปี 2012 และจากนั้นนักเตะดาวรุ่งผู้มั่งคั่งก็กลายเป็นดาวเตะสูงวัยที่กลายเป็นหนี้ท่วมหัวจนถึงทุกวันนี้


 

ที่มา: http://www.fourfourtwo.com/