แชมป์เก่าดุ! แรชฟอร์ดกดสองผีต้อนเรดดิ้ง 4-0

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 8 ม.ค. 2560 17:00:34 น. เข้าชม 642 ครั้ง แจ้งลบ

แชมป์เก่าดุ! แรชฟอร์ดกดสองผีต้อนเรดดิ้ง 4-0

ปีศาจแดงโชว์ฟอร์มสมราคาแชมป์เก่า เมื่อเปิดบ้านเอาชนะทีมจากลีกแชมเปี้ยนชิพไปแบบไม่ยากเย็น ตีตั๋วสู่รอบ 4 เอฟเอคัพได้ตามคาด

โชเซ มูรินโญ กุนซือเจ้าบ้าน ปรับทัพจากเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดเมื่อคืนวันจันทร์ที่บุกชนะเวสต์แฮม 2-0 เกือบยุกชุดถึง 9 คน โดยเหลือเพียงแค่ มาร์กอส โรโฮ กับ ไมเคิล คาร์ริค ที่ได้ลงตัวจริงต่อเนื่องเท่านั้น ส่วนแนวรุกปรับมาใช้ เวย์น รูนีย์ ยืนค้ำหน้าเป้าคอยประสานงานในแนวรุกร่วมกับ ฆวน มาต้า, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อ็องโตนี มาร์กซิยาล

ด้านทีมเยือนของ ยาป สตัม อดีตกองหลังชุดเทรเบิ้ลแชมป์เมื่อปี 1999 ของปีศาจแดง ที่ได้กลับมาเยือนถิ่นเก่าสมัยยังค้าแข้งอีกครั้ง ก็มีอดีตเด็กปั้นอย่าง ไทเลอร์ แบล็คเกตต์ ได้ลงดวลทีมเก่าด้วย ขณะที่แนวรุกฝากความหวังไว้ที่ดาวยิงชาวฝรั่งเศสอย่าง ยานน์ เคอร์มอร์กานท์ ซึ่งจะประสานงานร่วมกับ แกเร็ธ แม็คเคลียรีย์ และ รอย บีแรนส์


ออกสตาร์ทเกมมาเพียงแค่ 7 นาทีเท่านั้น เป็นยูไนเต็ดที่สามารถพังประตูขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ มาร์กซิยาล กระชากบอลขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนจะไหลเข้ากลางให้ มาต้า หวดด้วยซ้ายไปเข้าทาง รูนีย์ ใช้หัวเข่าขวากระแทกบอลระยะเผาขนตุงตาข่าย ส่งให้ปีศาจแดงออกนำ 1-0 ซึ่งลูกนี้ทำให้ดาวยิงหมายเลข 10 ขึ้นไปทาบสถิติดาวซัลโวตลอดกาลของสโมสรที่ 249 ประตูอีกด้วย

ถัดมานาทีที่ 15 แชมป์เก่ามาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ มาร์กซิยาล ทำชิ่งกับ รูนีย์ ก่อนที่แนวรุกชาวฝรั่งเศสจะลากเข้าเขตโทษไปแปเน้นด้วยขวาตามสไตล์ถนัดอย่างเด็ดขาด ช่วยให้เจ้าบ้านหนีห่างเป็น 2-0

อย่างไรก็ตาม ในอีก 4 นาทีต่อมา ยูไนเต็ดกลับต้องพบข่าวร้าย เมื่อกองหลังตัวหลักอย่าง โรโฮ บาดเจ็บจนฝืนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ต้องส่ง ฟิล โจนส์ ลงมาแทน ก่อนจะจบ 45 นาทีแรกเป็นปีศาจแดงที่นำอยู่ 2-0

ครึ่งหลังก็ยังเป็นแชมป์เก่าที่ครองบอลบุกได้เหนือกว่า จนกระทั่งมาได้ประตูที่สาม ในนาทีที่ 75 จากจังหวะที่ คาร์ริค จ่ายทะลุจากกลางสนามให้ แรชฟอร์ด ลากหลุดเดี่ยวแล้วเอี้ยวตัวแปด้วยขวาจ่อๆเข้าไป ส่งให้เจ้าบ้านนำห่างเป็น 3-0

4 นทีต่อมา ปีศาจแดงมาบวกลูกสี่ปิดกล่อง จากความผิดพลาดของ อาลี อัล ฮับซี ที่โดน แรชฟอร์ด วิ่งเข้ามากดดันจนทำบอลลั่นหน้าปากประตูตัวเองกลายเป็นสงเคราะห์ให้ดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษยิงโล่งๆอย่างง่ายดาย ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ถล่มชนะไปแบบขาดลอยถึง 4-0 กรุยทางสู่รอบ 4 เอฟเอคัพเป็นทีมที่สองต่อจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้สำเร็จ


ที่มา: http://www.goal.com/th