40 UP : รวมนักเตะไทยฟิตปั๋งเล่นอาชีพได้ แม้ก้าวเข้าสู่วัยทอง

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 27 ม.ค. 2560 11:37:21 น. เข้าชม 1624 ครั้ง แจ้งลบ

http://images.cdn.fourfourtwo.com/sites/fourfourtwo.com/files/styles/image_landscape/public/


แก่แล้วไม่แก่เลย! นี่ คือ 10 แข้งที่คงกระพันความฟิตปั๋ง เตะปี๊บดังกว่าเด็กหนุ่มหลายคน เพราะแม้ว่าอายุเกินหลัก 4 ไปแล้ว แต่ก็ยังโลดแล่นอยู่ในสังเวียนลูกหนังอาชีพได้สบายๆ มีใครกันบ้าง? อะไร คือ เคล็ดลับ? ใครอายุมากสุด? ติดตามได้ที่นี่


เสนาะ โล่งสว่าง

จากนักเตะหนุ่มที่หลีกหนีความลำบากจากชุมชนย่านตัวเมือง จ.นครสวรรค์ เพื่อออกล่าฝันบนเส้นทางลูกหนัง ก่อนพาตัวเองไปสู่การเป็นยอดนักเตะแถวหน้าของเมืองไทยได้สำเร็จ

เสนาะ โล่งสว่าง เจ้าของฉายา “ไอ้รถถัง” กองกลางตัวตัดเกมจอมฟิตจากสโมสรฟุตบอลถาวรฟาร์ม ยอดทีมแห่งภาคเหนือตอนล่าง เขาได้ลงทำศึกฟุตบอลถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ตั้งแต่วัยยังไม่ถึง 20 ปี ก่อนจะขยับขึ้นไปสร้างชื่อกับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง ธ.กสิกรไทย พร้อมพาทีมประสบความสำเร็จทั้งในและต่างประเทศมากมาย รวมถึงแอฟโร่ คัพ ที่เอาแชมป์สโมสรเอเชียมาแข่งกับแชมป์สโมสรของทวีปแอฟริกา

นอกจากในนามทัพ “รวงข้าว” แล้ว เสนาะยังเคยคว้าแชมป์กับทีมชาติไทยในยุคดรีมทีมมาแล้วมากมาย ก่อนที่จะได้งานประจำในช่วงบั้นปลายชีวิตค้าแข้งกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หลายคนอาจคิดว่าเขาจะยุติบทบาทพ่อค้าแข้งลง แต่ด้วยใจที่รัก และหลงไหลในกีฬาลูกหนัง  เสนาะ ในวัย 34 ปี ยังคงเดินต่อบนถนนสายลูกหนัง กลับไปรับใช้ นครสวรรค์ ทีมบ้านเกิดในศึกโปรลีก

ด้วยลีลาการเล่นที่ยังแจ่มแจ๋วเหมือนแข้งหนุ่ม ทำให้ ชัยนาท เอฟซี ในระดับดิวิชั่น 2 ดึงตัวเขาไปร่วมทีมในวัย 38 ปี ก่อนที่จะพาทีม “นกใหญ่” เลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 1 ได้อย่างน่าประทับใจ

หลังจากนั้นมาอีก 6 ปี เสนาะ โล่งสว่าง ยังคงมีสัญญานักเตะอาชีพหยิบยื่นให้เสมอ ไม่ว่าจะเป็น สุโขทัย เอฟซี , ปากน้ำโพ, อุตรดิตถ์ และ นครสวรรค์ ซึ่งเป็นทีมสุดท้ายในอาชีพค้าแข้ง ก่อนตัดสินใจแขวนสตั๊ดในวัย 44 ปี


อภิชาติ ทวีเฉลิมดิษฐ์

แม้อายุจะล่วงเลยมาจนย่างเข้าสู่วัย 52 ปี แต่เขายังประกาศเดินหน้าขอรับสัญญานักเตะอาชีพต่อไป

แม้ว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ชื่อของ อภิชาติ ทวีเฉลิมดิษฐ์ จะห่างหายไปจากสารบบฟุตบอลอาชีพ เนื่องจากหลายทีมอาจมองว่าเขามีอายุมากเกินไป ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในเรื่องของการค้าแข้งระดับอาชีพ แต่เมื่อวัย 50 ปี คือช่วงเวลาล่าสุดที่เจ้าตัวลงเล่นให้กับทีม สุราษฏร์ธานี เอฟซี ทีมบ้านเกิดในระดับดิวิชั่น 2 หลังจากย้ายกลับมาจาก แพร่ ยูไนเต็ด

ช่วงปี 2551 “น้ามัน” สร้างสถิติเป็นดาวเตะอายุเยอะสุดที่ลงเล่นในลีกสูงสุดด้วยวัย 43 ปี 9 เดือน ให้กับ ธ.กรุงเทพ ก่อนโดน สมชาย ทรัพย์เพิ่ม ทำลายลงด้วยวัย 51 ปี และแม้จะร้างลาจากฟุตบอลอาชีพในช่วง 2 ปีหลังจากค้าแข้งให้ทีมบ้านเกิด  เขาก็ยังคงเดินสายแข่งขันฟุตบอลระดับประชาชนทั่วประเทศ เสมือนนักเตะอาชีพ

เคล็ดลับง่ายๆในการยืนระยะบนลีกอาชีพได้แบบยาวนาน เจ้าตัวบอกว่าขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการชีวิต โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพร่างกาย การพักผ่อน การฝึกซ้อมที่ต่อเนื่อง และมันเคยทำให้เขาลาออกจากงานประจำถึง 2 ครั้ง เพื่อกีฬาที่เขาหลังรักหมดใจ



เทิดศักดิ์ ใจมั่น

ยอดเพลย์เมกเกอร์ร่างเล็ก เกิดมาในตระกูลลูกหนังอัจฉริยะของจริง แม้ว่ารูปร่างจะไม่สูงใหญ่ แต่ครอบครัว “ใจมั่น” ก็ส่งนักเตะระดับพรสวรรค์มาแจ้งเกิดในวงการฟุตบอลไทยถึง 3 คน

เทิดศักดิ์ ใจมั่น น้องชายคนเล็กของบ้าน เป็นเพียงคนเดียวที่ยืนระยะค้าแข้งมาได้จนถึงทุกวันนี้ จากเด็กโรงเรียนพณิชยการราชดำเนิน ที่แสดงฝีเท้าเกินอายุ จนก้าวไปติดทีมชาติไทยในระดับเยาวชน ลากยาวมาถึงชุดใหญ่ ก่อนยุติบทบาทในนามทัพ “ช้างศึก” ด้วยวัย 37 ปี


การเป็นผู้เล่นตัวเล็กจึงไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะยืนหยัดบนถนนสายลูกหนังมาได้ยาวนานเช่นนี้ การเข้าปะทะในเกมฟุตบอล อาจทำให้นักเตะหลายรายต้องเลิกราไปเพราะอาการบาดเจ็บ แต่ด้วยทักษะและความสามารถอันยอดเยี่ยม ที่ถูกทดแทนข้อด้อยทางกายภาพ ทำให้ เทิดศักดิ์ เติบโตอย่างต่อเนื่องในวงการฟุตบอล ผ่านการค้าแข้งกับทีมดังอย่างสโมสรตลาดหลักทรัพย์ และ บีอีซี เทโรฯ ก่อนที่จะพาทีม “มังกรไฟ” คว้ารองแชมป์เอเชียได้ในปี 2003

“น้าเทิด” ปิดตำนานกับเทโรฯ ด้วยการโยกไปค้าแข้งต่างแดนกับ อาร์มฟอร์ซ ในเอสลีก สิงคโปร์ ต่อลีกเวียดนาม  ก่อนหวนคืนสู่แดนลอดช่องอีกครั้งกับทีมเก่าด้วยวัยเลขหลักสาม ก่อนตัดสินใจเก็บข้าวของกลับบ้านเกิดไปค้าแข้งกับ “ฉลามชล” เป็นทีมสุดท้าย

เทิดศักดิ์ รับบทเป็นจอมทัพให้ทีมมาจนถึงปี 2014 แม้อายุจะล่วงเลยไปถึง 41 ปี ในตอนนั้น แต่สามารถสร้างสรรค์เกมตรงกลางสนามได้อย่างมีมิติ อย่างไรก็ตามในช่วง 2 ฤดูกาลต่อมา ก็เริ่มผันตัวเองมารับบทบาทหัวหน้าผู้ฝึกสอน ถึงแม้จะใส่ชื่อตัวเองเป็นโค้ชแอนด์เพลย์เยอร์ แต่หน้าที่ในสนามก็เริ่มลดลงไปมาก

ปัจจุบัน เทิดศักดิ์ ในวัย 43 ปี ยังไม่ได้ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ แลัยังคงทำหน้าที่ทั้งสองอย่างควบคู่กันไปด้วยเพราะสภาพร่างกายยังไหว


ณรงค์ วิเศษศรี

ผู้รักษาประตู อาจจะเป็นตำแหน่งที่ลงเล่นได้ยาวนานแม้อายุเยอะ เพราะใช้ร่างกายน้อยกว่าผู้เล่นตำแหน่งอื่นๆ เช่นเดียวกับชายคนนี้

ณรงค์ วิเศษศรี อดีตผู้รักประตูทีมชาติไทย แม้ปัจจุบันจะมีอายุล่วงเลยมาถึง 40 ปี แล้ว แต่เขายังคงมีชื่อลงรับใช้ต้นสังกัดอย่าง ซุปเปอร์ พาวเวอร์ เตรียมสู้ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 ในฤดูกาล 2017 ที่กำลังจะถึง

จากวันที่เป็นจอมหนึบวัย 18 ปี ในทีมโอสถสภา วันนี้เขายืนระยะในวงการฟุตบอลอาชีพมายาวนานกว่า 22 ปี เรียบร้อยแล้ว แม้บางช่วงอาจมีระหกระเหินไปจากต้นสังกัดสร้างเขาขึ้นมา แต่การก้าวย่างออกไปทุกครั้งก็สามารถสร้างความสำเร็จให้กับตัวเองและสโมสรใหม่ได้เสมอ

ช่วงวัย 34-35 ปี เขาคือหนึ่งในกำลังสำคัญที่พาการท่าเรือ คว้าแชมป์โตโยต้า ลีกคัพ และ รองแชมป์อีกหนึ่งสมัย โดยเฉพาะในช่วงปี 2015 ผู้รักษาประตูดาวรุ่งอย่าง วรวุฒิ แก้วผูก เกิดดวงแตกได้รับเจ็บยาว แถมฟอร์มของ อดิศักดิ์ ด้วงศรี ก็ตกลงไปอย่างน่าใจหาย ทำให้หน้าที่เฝ้าเสาตกเป็นของชายวัย  39  ปี รายนี้

ปัจจุบัน ณรงค์ วิเศษศรี ในวัย 40 ปี ยังคงเดินหน้าต่อบนสังเวียนหญ้าต่อไป เคล็ดลับสำคัญนอกจากจะต้องดูแลสภาพร่างกายเป็นพิเศษแล้ว เรื่องของการพักผ่อนก็ต้องเต็มที่ รวมถึงงดสุรา ไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่ และที่สำคัญโปรแกรมรับประทานอาหาร มีภรรยาคอยจัดให้แบบละเอียดยิบ



นิเวส ศิริวงศ์

ปราการหลังเจ้าของคาแรคเตอร์อันโดดเด่นด้วยการถกแขนเสื้อทั้งสองข้าง ยังคงไม่ห่างหายไปจากวงการฟุตบอลอาชีพแดนสยาม

อย่างแนวรับสารพัดประโยชน์อย่าง นิเวส ศิริวงศ์  สร้างชื่อให้ตัวเองมาตั้งแต่ระดับเยาวชนทีมชาติ และสโมสรสินธนา จนผงาดขึ้นไปเป็นนักเตะแถวหน้าของเมืองไทยด้วยวัยเพียง 19 ปี เท่านั้น แถมยังได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง

“กัปตันเป็ด” ผ่านร้อนผ่านหนาวบนถนนสายลูกหนังมามากมาย ทั้งในนามสโมสรและทัพ “ช้างศึก” กวาดความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับทีมชาติที่เขาติดแทบทุกชุด แถมยังเคยคว้าแชมป์ลีกสูงสุดกับทีม “บ้านจัดสรร” มาแล้วก่อนโยกไปค้าแข้งยังต่างแดน

ฟุตบอลอาชีพนอกบ้านเกิด ทำให้ นิเวส เติบโตอย่างเต็มที่ ประสบการณ์จากเอสลีก กับ กอมบัค และ เซมบาวัง รวมไปวีลีก กับ โฮจิมินห์ สร้างความรับผิดชอบในตัวเขาอย่างมาก จนเมื่อวัย 30 ปี ก็ตัดสินใจกลับไทยมาอยู่กับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง บีอีซี เทโรฯ พร้อมกับบทบาทกัปตันทีม เมื่อปี 2006

หลังค้าแข้งกับ “มังกรไฟ” ได้ 3 ปี เขาก็ย้ายทีมร่วมลีกอย่าง พัทยา ยูไนเต็ด และปักหลักเป็นผู้เล่นคนสำคัญจนถึงวัย 36 ปี และยังไหวแบกสังขารลงสนามได้แบบสบายๆ ตามสไตล์จอมอึด จนถูกสโมสรร่วมเมืองอย่าง ชลบุรี เอฟซี ดึงตัวไปร่วมทีม ในฤดูกาล 2014

เพียงแค่ปีเดียวกับ “ฉลามชล” เขาก็ต้องลดระดับตัวเองลงไปเล่นกับ อยุธยา วอริเออร์ ในดิวิชั่น 2 ของเลกแรก ปี 2016 แต่ด้วยความสามารถที่ยังคงเต็มเปี่ยม จึงได้กลับไปรับใช้ “โลมามหาภัย” อีกครั้งในช่วครึ่งฤกูกาลหลัง

ปัจจุบันวัยย่างเข้าสู่เลข 4 นิเวส ศิริวงศ์ ยังคงมีความสุขบนเส้นทางลูกหนังอาชีพ ล่าสุดเพิ่งลงฝึกซ้อมช่วงปรีซีซั่นให้กับ ม.เกษตรศาสตร์ อย่างเต็มตัวเพื่อลงบู๊ศึกไทยลีก 2 ในฤดูกาล 2017 ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้



พุทธ์ (ศัตรูพ่าย) ศรีณรงค์

แม้สถานภาพของเขาจะเปลี่ยนไปเป็น ผู้ช่วยโค้ช แต่ก็ยังคงใส่ชื่อตัวเองเป็นผู้เล่นพร้อมโลดแล่นในบนสังเวียนผืนหญ้าไปพร้อมๆกัน

พุทธ์ ศรีณรงค์ หรือชื่อเก่า ศัตรูพ่าย เคยแขวนสตั๊ดไปแล้วหนึ่งครั้งเพราะเบื่อหน่ายกับความไม่เป็นมืออาชีพของสโมสรฟุตบอลในเมืองไทย แต่ท้ายที่สุดลูกหม้อของสินธนา และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ก็ตัดสินใจหวนคืนสู่วงการฟุตบอลอาชีพอีกครั้ง

เขาเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางที่ต้องใช้พละกำลังและร่างกายค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะฟุตบอลสมัยใหม่ที่ต้องขยับวิ่งขึ้น-ลง ตลอดทั้งเกม แต่ผลงานของเขากับต้นสังกัดล่าสุดอย่าง อยุธยา เอฟซี ยังถือว่าน่าพอใจ แต่ด้วยวัยย่าง 40 ปี ทำให้ต้องลดบทบาทในสนามลงพอสมควร และกันไปรับหน้าที่ผู้ช่วยโค้ชควบคู่ไปด้วย

ปัจจุบัน พุทธ์ ศัตรูพ่าย ยังคงมีความหวังว่าจะประสบความสำเร็จกับต้นสังกัดอย่างเต็มเปี่ยม  แม้ว่าจะมีหน้าที่การงานประจำกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทำให้เขาต้องวางแผนชีวิตแต่ละวันให้ลงตัวเพื่อให้สภาพร่างกายตัวเองพร้อมเสมอสำหรับการลงสนาม และเตรียมรับศึกหนักที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ กับสังเวียนฟุตบอลดิวิชั่น 2 ฤดูกาล 2017


รุ่งเพชร เจริญวงศ์

อดีตทีมชาติไทยยุคดรีมทีมรายนี้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งแข้งที่อยู่คู่กับวงการฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนาน

จากจุดเริ่มต้นกับสโมสรฟุตบอลทหารบก จนก้าวไปติดทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รุ่งเพชร เจริญวงศ์ ก็ได้โอกาสก้าวเข้าสู่รั้วทีมระดับตำนานอย่าง ราชประชา ก่อนทำให้เขาได้ร่วมคว้าแชมป์กับทัพ “ช้างศึก” มากมายตลอดช่วงเวลา 6 ปีเต็ม ได้สัมผัสถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 24 รวมถึง ซีเกมส์ ครั้งที่ 17 และ 18

ทว่าหลังจากยุติบทบาทกับทีมชาติ ผลงานระดับสโมสรของเขาก็พลอยหายตามไปด้วย แต่ก็ยังคงกัดฟันเดินหน้าเล่นกีฬาอันเป็นที่รักอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับโปรลีก, ฟุตบอลอุตสาหกรรม จนลีกไทยกลับมาบูมสุดขีดอีกครั้งในช่วงปี 2009 ชื่อของดาวเตะรายนี้ยังคงโลดแล่นอย่างต่อเนื่องในระดับดิวิชั่น 2 ให้กับ ขอนแก่น เอฟซี, นครราชสีมา เอฟซี, อุบล ยูไนเต็ด ก่อนย้ายกลับไปรับใช้บ้านเกิด ยโสธร ในวัย 40 ปีเศษ พร้อมรับงานเป็นเฮดโค้ชของสโมสรควบคู่ไปด้วยเมื่อฤดูกาล 2016 ที่ผ่านมา

รุ่งเพชร เจริญวงศ์ ถือเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถสูงและมีวินัยกับการรักษาสภาพร่างกายเป็นอย่างดี ทำให้เขายืนระยะการเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้อย่างยาวนาน แม้ว่าในช่วง 2-3 ปีให้หลัง เพื่อนๆในยุคดรีมทีมจะเริ่มผันตัวไปเป็นโค้ชแบบเต็มตัว แต่เขายังคงมีความสุขกับการลงสนามอยู่เสมอ



สมชาย หันเอียง

เจ้าของฉายา “มิดฟิลด์พลังไดนาโม” ยังคงยืนหยัดค้าแข้งระดับอาชีพมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงวัย 42 ปี ในปัจจุบัน

สมชาย หันเอียง ฝ่าฝันเรื่องราวต่างๆในอดีตมามากมาย สั่งสมประสบการณ์และบ่มเพาะฝีเท้าอย่างโชกโชน จนกลายเป็นกองกลางตัวรับชั้นดีคนหนึ่งของประเทศ ที่เด็กรุ่นหลังต้องพูดถึง สมชาย หันเอียง ในวัยแรกเริ่มนักเตะประสบความสำเร็จกับการเดินหน้าคว้าแชมป์ไทยลีกถึง 2  สมัยกับ ธ.กรุงเทพ และ พนักงานยาสูบ

ช่วงปี 2539 เขาก้าวจากนักเตะระดับเยาวชนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ ธ.กรุงเทพ ก่อนพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นทีมแรกในการแข่งขันลีกอาชีพอย่างเป็นทางการครั้งแรกของประเทศ ภายใต้การคุมทัพของ “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล หลังจากนั้นก็ยังประสบความความสำเร็จมากมาย และได้มีโอกาสติดทีมชาติไทย ชุดเอเชียน คัพ ทั้งที่หลายคนคิดว่าเขาน่าจะอิ่มตัว และแขวนสตั๊ดในวัย 30 ต้นๆ

แต่ไฟรักในกีฬาลูกหนังอาชีพของกองกลางพันธุ์แกร่งรายนี้ยังไม่ดับมอดลง เขายังคงเดินหน้าโลดแล่นในวงการฟุตบอลอาชีพมาตลอดจนถึงวัย 40 ปี ด้วยการลดระดับลงมาเล่นศึกดิวิชั่น 2 ให้กับ ม.เกษตรศาสตร์, สมุทรปราการ ยูไนเต็ด, พนักงานยาสูบ และล่าสุดในฤดูกาลที่ผ่านมา สมชาย ในวัย 42 ปี ก็สวมปอกแขนกัปตันทีมลงเล่นให้กับ เกร็กคู ลูกทัพฟ้า ปทุมธานี พร้อมพาทีมจบด้วยอันดับ 5 ของตาราง


เกร็กคู ลูกทัพฟ้า ปทุมธานี เอฟซี

ประดิษฐ์ สว่างศรี

แม้ว่าอายุจะกำลังย่างก้าวเข้าเลขสี่ แต่สุดยอดแนวรับจอมพเนจรรายนี้ ยังคงไม่ห่างหายไปจากวงการฟุตบอลอาชีพของประเทศไทย

ในปัจจุบันกับสโมสรฟุตบอลนนทบุรี เอฟซี ระดับT4  ซึ่งเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนี้เขาจะกลายเป็นผู้เล่นที่อายุ 40 ปีเต็มทันที

แม้ว่าเขาเองอาจจะไม่โด่งดังเทียบเท่า รุ่งโรจน์ สว่างศรี พี่น้องร่วมตระกูลเดียวกัน แต่ ประดิษฐ์ ก็ผ่านการลงเล่นให้หลายสโมสร แถมยังเคยพาทีมดังอย่าง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เลื่อนชั้นสู่ไทยลีกได้อย่างน่าประทับใจ

เขายืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับนักเตะระดับตำนานหลายคน และเป็นคุณครูให้กับนักเตะรุ่นน้องยามอยู่บนสนาม แม้ว่าจะไม่ใช่แข้งระดับบิ๊กเนม แต่ในยุครุ่งเรือง เขามักเป็นตัวเลือกลำดับแรกๆของบรรดาโค้ชสโมสรดังต่างๆอยู่เสมอ เพราะเล่นได้สมราคาและทุ่มเทให้กับทีมอย่างสุดใจ

ช่วงปี 2010 ประดิษฐ์ สร้างความทรงจำจนติดตาแฟนบอลชาวไทย ในเกมที่ สุพรรณบุรี เอฟซี ต้นสังกัดของเขา พบกับ นราธิวาส ในระดับดิวิชั่น 1 เมื่อเขาจัดการยิงไกลกว่าครึ่งสนาม ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายคู่ต่อสู้เข้าไปอย่างสุดสวย ช่วยทีมเอาชนะไปได้ 4-0

ชีวิตการค้าแข้งของแนวรับพันธุ์แกร่งรายนี้ยังคงเดินหน้าต่อไปได้เรื่อยๆ และยังคงไม่ที่ท่าว่าจะยุติบทบาทนักเตะอาชีพในเร็ววันนี้ และมีแนวคิดประจำใจว่าถ้าซ้อมหนักได้จริง ก็สามารถเล่นได้เรื่อยๆแม้ว่าอายุจะมากขึ้นก็ตาม



ที่มา: http://www.fourfourtwo.com/th