ย้อนรอยฟุตบอลโลก : สวีเดน 1958

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 8 มิ.ย. 2561 10:22:17 น. เข้าชม 713 ครั้ง แจ้งลบ


ก่อนทัวร์นาเมนต์ที่รัสเซียจะเริ่มต้น เรามาย้อนอดีตเวิลด์คัพที่ผ่านมากัน และนี่คือรอบสุดท้ายของเวิลด์คัพ 1958 ที่สวีเด


ฟุตบอลโลกครั้งที่ 6 คือทัวร์นาเมนต์ที่เป็นจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของทีมชาติบราซิล หลังจากที่ บิเซนเต้ เฟโอลา พาทีมจากอเมริกาใต้ได้แชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรกไปครองได้สำเร็จ พร้อมๆ กับที่เจ้าหนูเปเลในวัย 17 ปี สยบโลกไว้ใต้ฝ่าเท้า
หลังจากที่พลาดการชูถ้วยรางวัลเมื่อปี 1950 ที่บ้านเกิดของตัวเอง เนื่องจากพ่ายแพ้แต่อุรุกวัย ก่อนจะมาตกรอบก่อนรองชนะเลิศเพราะเสียท่าต่อฮังการีในปี 1954 บราซิลก็จำเป็นต้องเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ที่สวีเดน
บราซิลออกเก็บตัวในหลายประเทศทั่วยุโรป และเล่นกับสโมสรอย่างฟิออเรนตินา เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม พร้อมกันนี้ พวกเขายังพานักโภชนาการ, นักจิตวิทยา และหมอฟันไปเป็นหนึ่งในทีมงานด้วย
สัญญาณแห่งอนาคตเกิดขึ้นตั้งแต่ในรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อบราซิลที่ซึ่งปฏิวัติการเล่นด้วยระบบ 4-2-4 ไม่เสียเลยแม้แต่ประตูเดียว พวกเขาชนะออสเตรียและสหภาพโซเวียต ก่อนจะเสมอกับอังกฤษด้วยผล 0-0 ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก




เกมรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายกับโซเวียตถือเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญต่อความสำเร็จของพวกเขา จริงๆ แล้วต้องพูดว่าต่อประวัติศาสตร์ฟุตบอลของพวกเขาเลยก็ว่าได้ เมื่อเปเลและการินชา ถูกส่งลงสนามเป็นตัวจริงในเวิลด์คัพเป็นครั้งแรก และทั้งคู่ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมไปพร้อมกับ วาว่า แนวรุกอีกรายของทีม
แชมป์เก่าเยอรมันตะวันตก, ฝรั่งเศสที่ทำประตูได้มากที่สุด และเจ้าภาพสวีเดน เป็นแชมป์กลุ่มเช่นเดียวกับบราซิล และต่างผ่านเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ รวมถึงรอบรองชนะเลิศได้อย่างง่ายดาย
เปเล ซึ่งทำได้ 6 ประตู ตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ ทำประตูแรกของเขาในเวิลด์คัพในรอบก่อนรองชนะเลิศ ที่บราซิลชนะเวลส์ ซึ่งไม่มี จอห์น ชาร์ลส์ แข้งยูเวนตุสซึ่งได้รับบาดเจ็บ ขณะที่เจ้าของรางวัลรองเท้าทองคำ จุสต์ ฟองแต็ง ทำได้ 2 ประตูในเกมที่ฝรั่งเศสชนะไอร์แลนด์เหนือไปได้ 4-0 จากจำนวน 13 ประตูที่เขาทำได้ตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์
ฟองแต็งอาจจะเป็นเจ้าของสถิติทำประตูในเวิลด์คัพได้มากที่สุดในหนึ่งทัวร์นาเมนต์ แต่แม้ว่าจะมีเขาและนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรป อย่างเรย์มงค์ โกปา ผนึกกำลังรวมกัน ก็ไม่อาจต้านทานความแข็งแกร่งของบราซิลได้ เมื่อเปเลทำแฮตทริคได้ภายใน 25 นาที ก่อนที่แซมบ้าจะชนะไป 5-2 ในรอบรองชนะเลิศ




บราซิลต้องพบกับเจ้าภาพสวีเดนในรอบชิงชนะเลิศ หลังจากที่ทีมไวกิ้งพลิกกลับมาชนะแชมป์เก่าอย่างเยอรมันตะวันตกได้ 3-1
อย่างไรก็ดี แม้แต่สปิริตในทีมสวีเดน ซึ่งเกิดขึ้นจากการสนับสนุนของสโมสรฟุตบอลที่อนุญาตให้นักเตะที่โดนเนรเทศออกจากประเทศถูกเรียกกลับมาติดทีมชาติได้ ก็ยังไม่อาจหยุดบราซิล และเปเล ซึ่งกลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่เล่นในฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศได้
หลังจากที่ทีมเจ้าภาพเป็นฝ่ายออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็วที่สนาม Rasunda Stadium ใน Solna วาว่า ก็กลับยิงให้บราซิลพลิกขึ้นนำด้วยสองประตูในครึ่งชั่วโมง ก่อนที่เปเลและมาริโอ ซากัลโล จะบวกเพิ่มอีกสองประตูในครึ่งหลัง
แม้ Agne Simonsson จะทำประตูที่สองให้สวีเดนไล่ตามมา แต่ทุกอย่างก็สายเกินไปเสียแล้ว บราซิลกลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้แชมป์ฟุตบอลโลกนอกทวีปของตัวเอง
บางทีสิ่งที่สำคัญกว่าประวัติศาสตร์ในเกมฟุตบอลก็คือ ทัวร์นาเมนต์นี้เป็นเวทีแจ้งเกิดสำหรับชายผู้จะกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อเปเลได้การยกย่องให้เป็นดาวรุ่งยอดเยี่ยมของการแข่งขันในครั้งนี้