โพสต์โดย : Admin เมื่อ 29 พ.ย. 2558 06:55:10 น. เข้าชม 1038 ครั้ง แจ้งลบ
ปราสาทสายฟ้าคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกสมัยที่ 4 ได้เรียบร้อยหลังบุกชนะบางกอกกล๊าส 3-1 พร้อมรักษาสถิติชนะรวดเป็นเกมที่ 13
ฟุตบอลโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2015 นัดที่ 31 บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมอันดับ 5 ของตาราง มี 51 คะแนน เปิดบ้านพบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงซึ่งมี 74 คะแนน และหากบุกมาชนะนัดนี้จะการันตีการคว้าแชมป์สมัยที่ 4 และเป็นแชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกันทันที
อนุรักษ์ ศรีเกิด ที่เข้ามาคุมทีมนัดแรกหลังกระต่ายแก้วปลด ริคาร์โด โรดริเกวซ ส่ง โกชิ โอคุโบะ ลงเป็นตัวจริงแทน อาริดาเน่ ซานตาน่า ส่วน อเล็กซานเดอร์ กาม่า จัดชุดใหญ่ลงครบครันทั้งคู่หน้า ดิโอโก้ มาเชนา และ ธีราทร บุญมาทัน
นาทีที่ 2 โอกาสครั้งแรกเป็นของบุรีรัมย์ ดิโอโก้ เกี่ยวบอลหลบ พีรพงศ์ ก่อนซัดหน้ากรอบเขตโทษบอลไปตรงตัว นริศ ทวีกุล
Goal ! นาทีที่ 5 บุรีรัมย์ออกนำเร็วจากลูกเตะมุม ธีราทร บุญมาทัน เปิดให้ กรวิทย์ นามวิเศษ โฉบมาโหม่งกดลงพื้นตุงตาข่าย 1-0
หลังเสียประตูเจ้าถิ่นพยายามบุกเพื่อยิงคืนแต่กลับเป็นทีมเยือนที่มีโอกาสใกล้เคียงกว่า นาทีที่ 15 มาเชนา ได้ยิงในเขตโทษบอลข้ามคานไปนิดเดียว
นาทีที่ 21 จังหวะใกล้เคียงที่สุดของบางกอกกล๊าส ภคิณ เปิดโค้งตัดแนวรับบุรีรัมย์แต่ โตติ วิ่งมาชาร์จที่เสาสองไม่โดนบอลเลยออกหลังไป
นาทีที่ 27 ธนาสิทธิ์ ที่ย้ายจากฝั่งขวาไปซ้ายได้บอลเลี้ยงตัดเข้าในและซัดหน้ากรอบ 18 หลาแต่เข้าซอง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน
นาทีที่ 32 บุรีรัมย์เกือบได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ แมตต์ สมิธ ไปปะทะกับ จักรพันธ์ แก้วพรม บอลหลุดมาที่ มาเชนา กระชากหลุดเดี่ยวก่อนไหลให้ ดิโอโก้ ยิงผ่าน นริศ ไปแล้วแต่โดน สุวรรณภัทร์ ที่ตามลงมาสกัดออกจากเส้นอย่างหวุดหวิด
Goal ! นาทีที่ 43 บอลยาวจากฝั่งซ้ายของบีจีมาถึง ดาร์โก ทาเชฟสกี้ ที่เสาสอง เกี่ยวหลบ อันเดรส ตูเญซ บอลหลุดมาถึง โตติ ยิงยัดเข้าไปโล่งๆตีเสมอเป็น 1-1
Goal ! หลังโดนตีเสมอแค่ 2 นาที บุรีรัมย์ กลับขึ้นนำอีกครั้งจากลูกฟรีคิกริมเส้นฝั่งซ้าย ธีราทร เปิดมากลางประตู โก ซุล กิ โหม่งเต็มหัวเข้าไป 2-1 และเป็นประตูที่ 3 จาก 3 นัดของดาวเตะชาวเกาหลีใต้ ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง บางกอกกล๊าส แก้เกมส่ง ศิวกร แสงวงศ์ ลงมาแทน เจษฎากร เหมแดง
Goal ! นาทีที่ 55 บุรีรัมย์หนีห่างเป็น 3-1 ธีราทร บุญมาทัน บรรจงวางจากฝั่งซ้ายให้ อันเดรส ตูเญซ จับและดีดด้วยซ้ายเข้าประตูไป
จากนั้น บางกอกกล๊าสเปลี่ยนคนที่ 2 เอา อาริดาเน่ ซานตาน่า ลงแทน โตติ
นาทีที่ 70 นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ที่ลงมาแทน ธีราทร บุญมาทัน ได้สับไกยิงบอลข้ามคานออกไป
นาทีที่ 78 ดิโอโก้ หลุดเข้าไปยิงผ่านมือ นริศ ทวีกุล แต่เป็นจังหวะล้ำหน้าที่ให้ยังใส่สกอร์ของตัวเองในเกมนี้ไม่ได้
นาทีที่ 82 โกชิ โอคุโบะ โหม่งเข้าประตูแต่ถูกจับล้ำหน้าเช่นกันทำให้ ยังไม่สามารถตีตื้นได้
จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด การันตีการคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก สมัยที่ 4 เรียบร้อยแล้วแม้ว่าจะเหลือโปรแกรมอีก 3 นัดสุดท้าย เมื่อมี 77 คะแนน ขณะที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด อันดับ 2 มี 64 คะแนนโดยเหลือคิวเตะในมือ 4 เกม ทำให้จะทำแต้มได้มากสุดแค่ 76 คะแนนเท่านั้น
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม
บางกอกกล๊าส เอฟซี : นริศ ทวีกุล (GK) – เจษฎากร เหมแดง ,สุวรรณภัทร์ กิ่งแก้ว ,แมตต์ สมิธ – บดินทร์ ผาลา ,ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ,พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ , ดาร์โก ทาเชฟสกี้ ,โตติ ,ภคิณ ไก่แก้ว ,โกชิ โอคุโบะ
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK) – สุรีย์ สุขะ ,อันเดรส ตูเญซ,กรวิทย์ นามวิเศษ – ธีราทร บุญมาทัน ,อนาวิน จูจีน ,สุเชาว์ นุชนุ่ม ,โก ซุล กิ ,จักรพันธ์ แก้วพรม - กิลแบร์โต มาเชนา ,ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต
