พรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : ยูเวนตุส (อิตาลี) - บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน)

"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค เตรียมส่ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ลงล่าชัยเกมบุกถิ่น "ม้าลาย" ยูเวนตุส ที่มี มาริโอ มานด์ซูคิช ดาวยิงตัวเก่งพร้อมปิดสกอร์เก็บชัน ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก) คืนวันอังคารที่ 23 ก.พ. ศกนี้

ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

(รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก)
วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559
ยูเวนตุส (อิตาลี) - บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน)
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1, ทรูสปอร์ต เอชดี 2 (เวลา 02.45 น.)

สนาม : ยูเวนตุส สเตเดี้ยม

        มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี เทรนเนอร์ "ม้าลาย" พาทีมผ่านเข้ารอบมาได้ด้วยการเป็นทีมอันดับ 2 ของกลุ่ม ดี ส่วนผลงานในลีก ล่าสุดบุกเสมอ โบโลญญ่า 0-0 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้หยุดสถิติชนะรวดไว้ที่ 15 นัด

        สภาพทีมไม่มีตัวเจ็บอย่าง มาร์ติน กาเซเรส ที่ปิดเทอมยาวไปแล้ว แต่ข่าวดีคือ มาริโอ มานด์ซูคิช และ ซามี เคดิร่า หายเดี้ยงพร้อมลงสนาม ส่วน จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กับ อเล็กซ์ ซานโดร ยังต้องรอทดสอบความฟิต รายของ แอร์นาเนส พ้นโทษแบนรายการนี้กลับมาเป็นตัวเลือก

        การจัดทัพอาจใช้หลังสี่ต่อไปเหมือนเดิมในระบบ 4-4-2 โดยมีผู้รักษาประตูเป็น จานลุยจิ บุฟฟ่อน แนวรับให้ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ จับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ อันเดรีย บาร์ซายี่ ขนาบข้างด้วย สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์ และ ปาทริซ เอวร่า

        ซามี เคดิร่า ประสานงานแดนกลางกับ เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ริมเส้นเป็น ฮวน กวาดราโด้ และ ปอล ป๊อกบา กองหน้า เปาโล ดิบาล่า กลับมาเป็นตัวจริง หลังพักเป็นสำรองในลีก คู่ขาเลือกระหว่าง มาริโอ มานด์ซูคิช หรือ อัลบาโร่ โมราต้า

        อย่างไรก็ตาม หาก จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ผ่านการทดสอบความฟิต คาดว่า มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี จะใช้ระบบการเล่น 3-5-2 โดยถอด ฮวน กวาดราโด้ ออกเป็นสำรอง

        ด้าน โจเซป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ "เสือใต้" ยังไม่แพ้ใครนับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2016 โดยเพิ่งเปิดบ้านแซงชนะ ดาร์มสตัดท์ 3-1 ทำให้ชนะ 4 จาก 5 เกมลีกที่ผ่านมา ขณะที่รายการนี้ผ่านเข้ารอบมาได้ด้วยตำแหน่งแชมป์กลุ่ม เอฟ ด้วยสถิติชนะ 5 จาก 6 นัด

        แมตช์นี้ ยังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน 3 ผู้เล่นแนวรับอย่าง เยโรม บัวเต็ง, ฆาบี มาร์ติเนซ และ โฮลเกอร์ บาดส์ตูเบอร์ ที่บาดเจ็บยาว ทว่าข่าวดีคือได้ เมห์ดี้ เบนาเตีย ฟิตกลับมา และน่าจะส่งลงเป็นตัวจริงเลย

        มานูเอล นอยเออร์ รับหน้าที่เฝ้าเสา ที่เหลือ เมห์ดี้ เบนาเตีย ยืนปราการหลังตัวกลางกับ ดาวิด อลาบา แบ็กสองข้างใช้ ฟิลิปป์ ลาห์ม และ ฆวน เบร์นาต

        ชาบี อลอนโซ่ เป็นมิดฟิลด์ตัวตัดเกม เปิดทางให้ อาร์เยน ร็อบเบน, โธมัส มุลเลอร์, อาร์ตูโร่ วิดาล และ ดั๊กลาส คอสต้า ทำเกมอยู่ข้างหลัง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

        ยูเวนตุส : จานลุยจิ บุฟฟ่อน - สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, อันเดรีย บาร์ซายี่, ปาทริซ เอวร่า - ฮวน กวาดราโด้, ซามี เคดิร่า, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ, ปอล ป๊อกบา - เปาโล ดิบาล่า, มาริโอ มานด์ซูคิช (อัลบาโร่ โมราต้า)

        บาเยิร์น มิวนิค : มานูเอล นอยเออร์ - ฟิลิปป์ ลาห์ม, เมห์ดี้ เบนาเตีย, ดาวิด อลาบา, ฆวน เบร์นาต - ชาบี อลอนโซ่ - อาร์เยน ร็อบเบน, โธมัส มุลเลอร์, อาร์ตูโร่ วิดาล, ดั๊กลาส คอสต้า - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

        ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน (อังกฤษ)

 

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- ยูเวนตุส จบรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่ม ดี โดยตามหลังแมนฯ ซิตี้ และผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2005-06
- บาเยิร์น มิวนิค จบรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม เอฟ เหนืออาร์เซน่อล และผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์เป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน และผ่านเข้ารอบตัดเชือก 5 จาก 6 ฤดูกาลหลังสุด
- ยูเวนตุส และ บาเยิร์น เจอกันแค่ครั้งเดียวในรอบน็อกเอาต์ชปล. โดย "เสือใต้" เป็นฝ่ายเข้ารอบด้วยประตูรวม 4-0 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ฤดูกาล 2012-13
- บาเยิร์น ชนะรวด 2 ครั้งหลังสุดที่เยือนยูเวนตุสในชปล. (ได้ 6 เสีย 1)
- ยูเวนตุสไม่ชนะใน 4 เกมชปล.หลังสุดที่พบบาเยิร์น (เสมอ 1 แพ้ 3) โดยหนล่าสุดที่พวกเขาชนะ เกิดขึ้นเมื่อพฤศจิกายน 2005 จากการเหมาของ ดาวิด เทรเซเก้ต์ (2-1)
- ยูเวนตุส ยังไม่เสียประตูในบ้าน ชปล. ฤดูกาลนี้ (ร่วมกับเปแอสเชและเรอัล มาดริด)
- ยูเวนตุส ทำได้แค่ 6 ประตูจากรอบแบ่งกลุ่มฤดูกาลนี้ น้อยที่สุดในบรรดา 16 ทีมที่ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์
- ยูเวนตุส แพ้แค่ 2 จาก 34 เกมเหย้าหลังสุดในชปล. (ชนะ 22 เสมอ 10) โดยความพ่ายแพ้ทั้ง 2 นัดเป็นเกมกับบาเยิร์น
- เสือใต้ไม่ชนะใน 5 เกมเยือนหลังสุดในชปล. รอบน็อกเอาต์ (เสมอ 2 แพ้ 3)
- บาเยิร์น เป็นทีมที่ยิงประตูมากที่สุดในรอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาลนี้ (19 ประตู ร่วมกับเรอัล มาดริด)
- อัลบาโร่ โมราต้า ทำ 6 ประตูจาก 8 เกมที่เป็นตัวจริงในชปล. รอบน็อกเอาต์
- โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำ 30 ประตูในชปล. นับตั้งแต่ฤดูกาล 2011-12 มีเพียง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (60) และ ลิโอเนล เมสซี่ (43) ที่ยิงได้มากกว่าในช่วงเวลาเดียวกัน
- เกมต่อไปของ ฟิลิปป์ ลาห์ม จะเป็นเกมชปล. นัดที่ 100 ของเขาในรายการนี้ และเป็นผู้เล่นเยอรมันคนที่ 2 ที่แตะหลักนี้ต่อจาก โอลิเวอร์ คาห์น (103)