พรีวิวฟุตบอล ยูโรปา ลีก : ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) - แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 10 มี.ค. 2559 04:07:16 น. เข้าชม 1354 ครั้ง แจ้งลบ

ฟุตบอล,ยูโรปา ลีก,ลิเวอร์พูล,แมนฯ ยูไนเต็ด

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จัดผู้เล่นชุดใหญ่ นำโดย ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ รอรับคู่รักคู่แค้นร่วมลีก "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ขาดนักเตะตัวหลักหลายคน นัดนี้เตรียมส่งอ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ลงไล่ล่าประตูในแดนหน้า ในการแข่งขันฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก คืนวันพฤหัสบดีที่ 10 มี.ค. ศกนี้

 

ฟุตบอลยูโรปา ลีก
รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม 2559
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) - แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
เวลา : 03.05 น.


สนาม : แอนฟิลด์ (ลิเวอร์พูล)


             หงส์แดง กลับมาอยู่ในฟอร์มยอดเยี่ยม เกมลีกเก็บ 9 แต้มเน้นๆ จาก 3 นัดหลัง แซงขึ้นมาอยู่อันดับ 7 ตามหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด 3 แต้มแล้ว และแข่งน้อยกว่า 1 นัดด้วย


             ส่วนในรายการนี้ รอบที่แล้วผ่าน เอาก์สบวร์ก สกอร์รวม 1-0 ประตูเดียวเกิดขึ้นจากจุดโทษของ เจมส์ มิลเนอร์ ในนัดสองที่ แอนฟิลด์


             เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน จะไม่มี ลูคัส เลวา กองกลางตัวรับที่เจ็บต้นขาพัก 6 สัปดาห์ รวมถึงมิลเนอร์ ซึ่งป่วยจนถูกส่งตัวกลับบ้านไม่น่าหายทัน


             ขณะที่ มาร์ติน สเคอร์เทล เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลัก กำลังเรียกความฟิตหลังหายเจ็บกลับมาซ้อม มีลุ้นมีชื่ออยู่ในทีมเกมนี้


             อย่างไรก็ตาม ในถ้วยยุโรป จอน ฟลานาแกน ฟูลแบ็กที่ลงตัวจริงนัดก่อนที่บุกชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 ไม่มีชื่อลงทะเบียน ทำให้ เนธาเนียล ไคลน์ จะคืนตัวจริงแบ็กขวา


             แบ็กซ้ายจะเป็น อัลเบร์โต้ โมเรโน่ แต่ต้องระวังใบเหลืองเพิ่ม เพราะคาดโทษอยู่คนเดียว


             แดนกลาง เจมส์ มิลเนอร์ พร้อมนำทัพ เพราะเกมลีกสุดสัปดาห์จะติดโทษแบน


             แนวรุกพร้อมเรียก แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กลับมาเป็นตัวจริง หลังนั่งสำรองเกมกับ พาเลซ ขณะที่ คริสติย็อง เบนเตเก้ ที่ยิงประตูชัยจากจุดโทษ คงต้องรอโอกาสข้างสนามต่อ


             ด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด ของกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล เกมล่าสุดบุกแพ้ เวสต์บรอมวิช 0-1 เมื่อวันอาทิตย์ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น 4 นัดรวมทุกรายการ ชนะมารวด


             ถ้วยนี้รอบที่แล้วผ่าน มิดทิลลันด์ ทีมจากเดนมาร์ก มาได้ หลังบุกแพ้ก่อน 1-2 แต่กลับมารัวในบ้านนัดสอง 5-1 แซงเข้ารอบสกอร์รวม 6-3


             สภาพทีมต้องขาด เจสซี่ ลินการ์ด มิดฟิลด์ตัวรุกที่โดนแบน 1 นัด หลังสะสมใบเหลืองครบ ขณะที่คริส สมอลลิ่ง ต้องระวังโดนเพิ่มเพราะคาดโทษอยู่


             บรรดาตัวเจ็บยังไม่มี เวย์น รูนี่ย์, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, ฟิล โจนส์ แต่ก็อยู่ในช่วงเรียกความฟิตทั้งหมด ขณะที่ มารูยาน เฟลไลนี่ กลับมานั่งสำรองนัดก่อนแล้ว 


             นอกจากนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังได้ข่าวดีเมื่อ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ปีกร่างบึกทีมชาติเอกวาดอร์ สลัดอาการเจ็บและเรียกฟิตกลับมามีชื่ออยู่ในทีมดวล ลิเวอร์พูล แล้ว ขณะที่ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กองกลางชาวเยอรมัน ก็กลับมาซ้อมแล้วเช่นกัน แม้ยังไม่พร้อมลงเล่นก็ตาม


             ฟาน กัล พูดถึงโอกาสกลับมามีชื่อในเกมนี้ของปีกเอกวาดอร์ ที่มักถูกจับเล่นแบ็กขวาอยู่บ่อยครั้งในฤดูกาลนี้ว่า "วาเลนเซีย ฟิตพอเป็นสำรองในเกมนี้ แต่คงเล่นเต็ม 90 นาทีไม่ได้"

             ตัวเลือกสำรองไม่อาจใช้งาน อัดนาน ยานาไซ ปีกที่ติดคัพ-ไทถ้วยนี้ และ ทิโมที โฟซู-เมนซาห์ กองหลังดาวรุ่งก็ไม่มีชื่อลงทะเบียน


             การจัดทัพ มอร์กก็อง ชไนเดอร์ลิน พร้อมกลับคืนคุมทัพแดนกลาง ขณะที่แนวรุก เมมฟิส เดอปาย แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เกมกับ มิดทิลลันด์ นัดสอง พร้อมลงลากเลื้อยแทน ลินการ์ด


             แดนหน้าอาจพัก มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวรุ่งวัย 18 นั่งสำรองบ้าง หลังลงเล่นติดต่อกัน 4 นัดในรอบ 11 วัน และขยับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล เป็นหน้าเป้า


             รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม


             ลิเวอร์พูล : ซิ มง มิโญเล่ต์, เนธาเนียล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, มามาดู ซาโก้, อัลเบร์โต้ โมเรโน่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจ อัลเลน, เอ็มเร่ ชาน, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, แดเนียล สเตอร์ริดจ์

 

             แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา, กีเยร์โม่ วาเรล่า, คริส สมอลลิ่ง, ดาเลย์ บลินด์, มาร์กอส โรโฮ, ไมเคิ่ล คาร์ริค, มอร์กก็อง ชไนเดอร์ลิน, ฆวน มาต้า, อันเดร์ เอร์เรร่า, เมมฟิส เดอปาย, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล


             ผู้ตัดสิน : การ์ลอส เบลาสโก้ การ์บาโย่ (สเปน)

 

เกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจ

 - เกมนี้จะเป็นเกม "แดงเดือด" หนแรกในฟุตบอลยุโรป

- ทั้งคู่พบกันมาแล้ว 166 เกมในลีก (แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 67 แพ้ 55) และ 18 ครั้งในบอลถ้วย (แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 11 แพ้ 7 ทั้งในเอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ)

- แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะได้ตลอด 4 เกมหลังที่พบกับ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่โดนถล่มคารัง 0-3 เมื่อปี 2014

- ลิเวอร์พูล เจอกับทีมจากอังกฤษมาแล้ว 16 ครั้งในบอลยุโรป โดยชนะ 4 เสมอ 7 แพ้ 5 (ชนะ 4 เสมอ 3 แพ้ 1 ในบ้าน - เสมอ 4 แพ้ 4 เกมเยือน) 

- ปีศาจแดงเจอกับทีมจากอังกฤษมาแล้ว 7 ครั้งในบอลยุโรป โดยชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 1 (ชนะ 3 ในบ้าน - ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 1 เกมเยือน) โดยพวกเขาไม่แพ้ใน 6 เกมหลัง รวมเกมที่เสมอ เชลซี 1-1 ในรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีกที่มอสโกเมื่อปี 2008 ก่อนเอาชนะจุดโทษในที่สุด

- ลิเวอร์พูล ยังไม่แพ้ใครในบอลยุโรปฤดูกาลนี้ (ชนะ 3 เสมอ 5) และไม่แพ้ใน 6 เกมที่เล่นในบ้าน (ชนะ 3 เสมอ 3) นอกจากนี้ยังไม่แพ้ในรังเกมยูโรปา ลีกมาแล้ว 8 เกมติด (ชนะ 5 เสมอ 3) นับตั้งแต่พ่าย อูดิเนเซ่ 2-3 ในรอบแบ่งกลุ่มเมื่อปี 2012/13

- แมนฯ ยูไนเต็ด มีสถิติเล่นรายการนี้อยู่ที่ชนะ 2 แพ้ 4 (ชนะ 1 แพ้ 2 ในรัง - ชนะ 1 แพ้ 2 เกมเยือน)

- ลิเวอร์พูล แพ้ในการดวลจุดโทษให้กับ เบซิคตัส ในรอบ 32 ทีมสุดท้ายเมื่อปีที่แล้ว และพ่าย เซนิต ในรอบเดียวกันเมื่อปี 2012/13ม ในปี 1973, 1976 และ 2001 พวกเขาคว้าแชมป์มาครองได้ ส่วนหนล่าสุดที่เล่นในรอบ 16 ทีมคือปี 2010/11 พวกเขาผ่าน สปาร์ต้า ปราก ไปได้ก่อนแพ้ บราก้า ในรอบ 8 ทีม

- แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นในรายการนี้หนล่าสุดเมื่อปี 2011/12 โดยตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการแพ้ให้กับ แอธ.บิลเบา ส่วนสถิติดีที่สุดในรายการนี้คือเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศเมื่อปี 1984/85